ศูนย์ปราบปรามดำเนินคดีแรงงานต่างด้าวลักลอบทำงานและกระบวนการค้ามนุษย์ (ศป.รต.)ร่วมฝ่ายปกครองอำเภอศรีราชาบุกจับแรงงานต่างด้าวในโรงงานรับซื้อของเก่าชื่อดังในพื้นที่ศรีราชาเพื่อตัดตอนต้นตอขบวนการค้าแรงงานข้ามชาติ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 พ.ค.55 นายสุรศักดิ์ ไกยสิทธิ์ นักวิชาการแรงงานชำนานการ หัวหน้าชุดปราบปราม และดําเนินคดีแรงงานต่างด้าวลักลอบทํางานและกระบวนการค้ามนุษย์ (ศป.รต.) สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประสานกับฝ่ายปกครองจังหวัดชลบุรีและฝ่ายปกครองอำเภอศรีราชา นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนจำนวน 20 นาย บุกเข้าจับกุมแรงงานต่างด้าวที่บริษัทถนัดศรีทวีคูณรุ่งเรือง(14)จำกัด เลขที่ 41/8 หมู่ 8 ตำบลบึง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นโรงงานรับซื้อของเก่ารายใหญ่ในพื้นที่ศรีราชา ซึ่งพบว่ามีทั้งแรงงานคนไทยและคนต่างด้าวกว่า 100 คน กำลังทำงานคัดแยกของเก่าอยู่ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่เดินเข้าไป แรงงานต่างด้าวได้พากันวิ่งหนีกันจ้าละหวั่นแต่เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมแรงงานต่างด้าวทั้งชายและหญิงที่ไม่มีใบอนุญาต ทำงานได้รวม 66 คนโดยเป็นชาวพม่า 3 คน ชาวลาว 23 คนและชาวกัมพูชา 40 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นคนงานของบริษัทถนัดศรีทวีคูณรุ่งเรือง (14) จำกัด โดยนายสุรศักดิ์ ไกยสิทธิ์ นักวิชาการแรงงานชำนานการ หัวหน้าชุดปราบปราม และดําเนินคดีแรงงานต่างด้าวลักลอบทํางานและกระบวนการค้ามนุษย์ (ศป.รต.) สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้มีประชาชนร้องเรียนเข้าไปที่สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นจำนวนมากว่ามีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาทำงานตามโรงงานในเขตพื้นที่ตำบลบึง อำเภอศรีราชาเป็นจำนวนมาก จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกหาข่าวจนทราบว่าที่บริษัทถนัดศรีทวีคูณรุ่งเรือง (14) จำกัด มีแรงงานต่างด้าวมาทำงานอยู่ จึงนำกำลังจากศูนย์ตรวจสอบปราบปรามดำเนินคดีแรงงานต่างด้าวลักลอบทำงานและกระบวนการค้ามนุษย์ (ศป.รต.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากฝ่ายปกครองจังหวัดชลบุรีและฝ่ายปกครองอำเภอศรีราชาบุกจับกุมแรงงานต่างด้าวดังกล่าว จากการสอบปากคำพบว่าแรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมดได้ลักลอบเดินทางเข้ามาทำงานผ่านชายแดนจังหวัดสระแก้วและจันทบุรีเพื่อมาขายแรงงานในประเทศไทย ส่วนชาวลาวนั้นลักลอบเดินทางเข้ามาทางจังหวัดหนองคายและชาวพม่านั้นลักลอบเข้ามาทางจังหวัดตาก โดยมีนายหน้าพามาทำงานได้ค่าจ้างวันละ 180 บาทโดยพบว่าแรงงานส่วนใหญ่จะเป็นชาวกัมพูชา ลาว และพม่า ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้ามาขายแรงงานตามสถานที่ก่อสร้าง และโรงงานต่างๆ จึงได้แจ้งข้อหาแรงงานต่างด้าวทั้ง 66 คน ว่าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตและหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อหาผู้ดูแลบริษัทและดูแลคนงานว่า ให้ที่พักพิงแก่แรงงานต่างด้าวและมีแรงงานต่างด้าวทำงานโดยผิดกฎหมาย หลังจากนั้นจึงนำตัวทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองขาม ดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนผลักดันแรงงานต่างด้าวที่จับได้ออกนอกราชอาณาจักรต่อไป จึงขอเตือนนายจ้างหรือสถานประกอบการ มิให้ลักลอบจ้างแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองทำงาน เพราะการใช้แรงงานต่างด้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากจะเป็นกระทำผิดกฎหมายแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสังคมและประเทศชาติโดยรวม ซึ่งชุดเฉพาะกิจศูนย์ปราบปรามดำเนินคดีแรงงานต่างด้าวลักลอบทำงานและกระบวนการค้ามนุษย์ (ศป.รต.) มีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บารุงรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานศูนย์ โดยมีภารกิจในการดาเนินการปราบปราม จับกุมแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบทางานและดำเนินการขยายผลไปยังกลุ่มนายทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการขนย้ายแรงงานข้ามชาติ |