ลูกสาวแท้ๆ ของแม่เฒ่าวัย 81 ปี เชิดมรดกที่ดิน 4 ไร่  3 วา ที่แม่จัดแบ่งให้ลูกๆ ทั้ง 4 คน แถมขู่ถ้าไม่ให้จะผูกคอตนเองตาย แต่สุดท้ายก็ไร้ผล ที่ดินโดนโอนเปลี่ยนมือเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว

     จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแม่เฒ่าบุญปลูก เอี่ยมสำอาง วัย 81 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.1 ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี รายนี้เป็นที่อดสูยิ่งนัก เมื่อลูกๆ ที่ชุบเลี้ยงมาทอดทิ้งให้อยู่บ้านตามลำพัง หลังที่ต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวกันหมด ส่วนตนเองได้มีมรดก เป็นที่ดิน เก็บไว้ 4 ส่วน หวังก่อนตายจะแบ่งให้ลูกๆ ทั้ง4 คนเท่าๆ กัน โดยแอบเขียนไว้ที่หลังโฉนด

     แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมานี้นั้นไม่เป็นไปตามที่ตนเองหวัง เมื่อลูกสาวคนที่ 3 คือ นางประไพ ขาวยั่งยืน และนายไพศาล ขาวยั่งยืน สามี ซึ่งทั้งทั้งคู่เป็นครูโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ชลบุรี แอบวางแผนนำโฉนดที่ดินของผู้เป็นแม่ไปเปลี่ยนชื่อ ตั้งแต่ปี 2545 รวมเวลา 10 ปีเต็ม โดยทำทีเอาหนังสือสัญญามาให้เขียน ในขณะที่แม่เฒ่าป่วยเข้าโรงพยาบาล แล้วอ้างว่าเงินรักษาและค่ายาไม่พอต้องเซ็นชื่อรับทราบ เพื่อไปกู้ยืมเงินมาจ่ายค่ายา  ซึ่งในขณะนั้นแม่เฒ่าก็ไม่ทราบเพราะไม่รู้ว่าลูกสาวจะทำกับตนเอง โดยการนำกระดาษเปล่ามาให้เซ็นชื่อลงไป แล้วถามถึงโฉนดที่ดินที่เก็บไว้ ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าลูกสาวตนถามทำไม จึงได้บอกไปเพราะถ้าหายหรือตนเองเป็นอะไรไปก็จะได้รู้ และนำไปแบ่งกันตามที่ตนเขียนไว้ที่หลังโฉนด

     หลังจากที่แม่เฒ่าหายดีแล้วก็กลับมาอยู่บ้าน และได้ถามเรื่องโฉนดกับนางประไพ ทุกครั้งที่พบหน้าลูกสาว แต่ก็โดนบ่ายเบี่ยงตลอดมานานนับสิบปี จนตนเองทนไม่ไหวก็บอกว่าหากไม่ได้โฉนดคืนมาให้ตนเองดู จะผูกคอตายให้มันรู้แล้วรู้รอดไป เมื่อนางประไพ ลูกสาวเห็นว่าแม่ต้องการโฉนดคืนจริงๆ ก็จำยอม แต่ได้พูดออกมาว่า ถ้าได้โฉนดคืนแล้วต้องทำใจไว้นะ เพราะโฉนดได้เปลี่ยนชื่อเป็นของตนเองเพียงผู้เดียวแล้ว หากอยากจะได้ก็ไปฟ้องร้องเอาเอง ทำเอาแม่เฒ่าถึงกับน้ำตาไหลออกมาทันที เมื่อรู้ว่าลูกสาวสุดที่รักทำกับตนเองอย่างสุดแสบ
     ยิ่งไปกว่านั้น นางประไพร ได้เปิดเพลงธรณีกัญแสง ให้แม่เฒ่าฟังทุกวันหลังกลับมาจากโรงเรียน จนเรื่องที่เกิดขึ้นรู้ถึงหูลูกๆ ทั้ง 3 คนที่เหลือ คือ  นางชมพู่  จิตรสายชล นางสมพิศ พูลทรัพย์ และนายดาบตำรวจ สุภาพ เอี่ยมสำอาง จึงขอร้องให้ นางประไพ นำที่ดินที่เอาไปมาคืนแม่ก่อนแล้วจะแบ่งให้อีกที แต่นางประไพ ไม่ยอมแถมพูดต่อว่าอีกด้วย หากอยากได้ไปฟ้องศาลเอาเอง จนลูกทุกคนต้องพาแม่ไปฟ้องศาลชลบุรี
     ซึ่งในเบื้องต้นนั้น ศาลได้พิจารณาตามหลักฐานกระบวนการแล้ว นางประไพ ได้มีสิทธิ์ครอบครองที่ดินทั้งหมดถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ โดยไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้นั้น นางประไพไปทำอะไรกับโฉนดที่ดินผืนนี้มาจนสามารถครอบครองได้ เพราะตามใบโฉนดนั้นได้มีการถ่ายโอนมานานนับสิบปีแล้ว แต่อย่างไรก็ตามแม่เฒ่าเป็นทุกข์ขนานหนักจนกินไม่ได้นอนไม่หลับกับการที่ถูกลูกสาวคนโปรดทำกับตนเองแบบไร้สำนึก และอยากจะได้ที่ดินจากลูกสาวคืนมาเพื่อแจกจ่ายให้กับพี่ๆ น้องๆ เท่าๆ กันเท่านั้น

อนันต์-อนุชา/ ข่าวภาพ