ไร่องุ่น "วัดเขาบ่อยาง" เมืองชลบุรี ความสำเร็จของพระและเด็กวัดเพื่อการศึกษา พัฒนาคน โอดสภาพดินฟ้าอากาศผิดปกติ ทำผลผลิตลดลง เกือบ 50% ส่งผลกระทบทำบรรยากาศเก็บเกี่ยวไม่คึกคักเท่าที่ควร

     วันนี้(19 พ.ค.55 ) นายสมภพ ไชยอรรถ ผู้ดูแลไร่องุ่น "วัดเขาบ่อยาง" ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี เผยว่า ไร่องุ่นสีเขียวเนื้อมากว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวหรือชาวบ้านสามารถเข้ามาตัดเก็บได้แล้ว โดยที่ผ่านมาทางวัดได้ทำการปลูกไว้หลายสายพันธ์ เช่น แบล็กโอปอเป็นที่นิยมมาก ซึ่งองุ่นสายพันธุ์ดังกล่าว มีขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ซึ่งพื้นที่จังหวัดชลบุรี มีการปลูกองุ่นเป็นครั้งแรก

     หลังจากนั้นได้ทำการทดลองหาสายพันธุ์องุ่นไวท์มะละกาและแบล็กโอปอ ไม่มีเมล็ด มาทดลองปลูกอีกครั้ง ซึ่งในช่วงแรกได้ทดลองปลูกเพียง 2 แปลงๆละ 2 ไร่ เท่านั้น โดยการทดลองปลูกดังกล่าวก็ได้ทำการศึกษาค้นคิดวิธีการดูแลรักษาอยู่นานพอสมควรของลูกศิษย์ ,พระ และเณร ที่มาช่วยกันทำ โดยใช้ชื่อโครงการว่า "สวนองุ่นเด็กวัดเขาบ่อยาง" ผลผลิตเริ่มให้ผลครั้งแรกนั้นผลองุ่นมีรสชาติหวานกรอบอร่อย ผลใหญ่ พวงโต จึงทำให้ชาวบ้านที่เดินทางมาดูเกิดความสนใจและหาซื้อไปทานกันที่บ้าน และไม่พอจำหน่าย จนได้ทุนต่อยอดในการดูแลสวนอีกระยะหนึ่ง
     จากนั้น เริ่มเห็นแนวทางและเป็นการจุดประกายที่ดีของสวนองุ่นเด็กวัดแห่งนี้ จึงมีการขยายพื้นที่ออกไปอีก ปัจจุบันมีพื้นที่ทั้งหมด 15 ไร่ โดยเพิ่มสายพันธุ์องุ่นมาอีก 1 ชนิด คือ สายพันธุ์ เอ็มเพอรเลอร์สีแดงผลใหญ่ ที่ชาวต่างชาตินิยมรับประทานกัน แต่ครั้งนี้ทางวัดได้จัดให้พื้นที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ให้กับเยาวชน โดยการนำนักเรียนมาอบรมส่งเสริมทางด้านการเพาะปลูก ตามขั้นตอนต่างๆ จนทุกอย่างเป็นรูปแบบที่ดี ถึงแม้ปัญหาจะมีบ้างเป็นบางส่วน แต่ก็ทำให้นักเรียนเยาวชนที่มานั้นได้มีประสบการณ์กลับไป

     ปัจจุบันนี้ทางสวนองุ่นเด็กวัด ได้เพิ่มยอดการเพราะปลูกเป็น 15 ไร่ แล้วในระยะเวลา 6 ปีแล้ว แต่ในปีนี้ไร่องุ่นประสบปัญหาในเรื่องของสภาพอากาศแปรปรวนจึงต้องเปลี่ยนสายพันธ์เพื่อให้เข้ากับสภาพอากาศ ซึ่งปัจจุบันปลูกพันธ์สีเขียวเนื้อมากแทน ซึ่งทำให้ผลลิตตกต่ำลงไปมาก โดยลดลงจากปีที่แล้วเกือบ 50 % ส่งผลกระทบกับบรรยากาศในการเก็บผลผลิตไม่คึกคักเหมือนปีที่ผ่านๆ มา
สีของผลองุ่นไม่สดสวย รวมทั้งใบก็จะมีสีเหลือง ส่งผลกระทบถึงทุนการศึกษาที่จัดให้กับเยาวชนในพื้นที่ และทุนที่จะเก็บไว้ใช้ในการบำรุงดูแลรักษาและพัฒนาโครงการ แต่อย่างไรก็ดีถึงผลองุ่นจะไม่สมบูรณ์เหมือนปีที่ผ่านมา แต่ในเรื่องรสชาตินั้นไม่แตกต่างกันเลย และคาดว่าหากในปีนี้สวนองุ่นไม่โดนฝนเหมือนกับปีที่ผ่านมา ผลผลิตนั้นคงกลับมาเหมือนเดิมอย่างแน่นอน

ปทักพล ชมชื่น/ข่าวภาพ