ตร.ภ.2 ฝึกควบคุมฝูงชนเข้ม เตรียมคุ้มกันนายกปูประชุม ครม.สัญจรที่พัทยา

     รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง ตรวจการฝึกควบคุมฝูงชนตามหลักยุทธวิธีแบบสากล (UN) ในการเตรียมความพร้อมคุ้มกันนายกปู และบุคคลสำคัญ ในการเดินทางมาเปิดการประชุม ครม.สัญจรที่พัทยา ระหว่างวันที่ 18 – 19 มิ.ย.55 เผยยังไม่พอใจมากนัก พร้อมขอให้พิจารณานำกำลังพลเข้าฝึกในพื้นที่จริงเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและคุ้นเคยกับพื้นที่อีกด้วย

     เมื่อเวลา 12 .00 น.ของวันที่ 16 มิ.ย.55 พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.และที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคง พร้อมคณะนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาตรวจเยี่ยมการฝึกการควบคุมฝูงชนของตำรวจภูธรภาค 2 ประจำปี 2555 จำนวน 560 นาย ณ ลานจอดรถ 3 ของสวนนงนุชพัทยา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่ดัดแปลงเป็นลานสาธิตการฝึกอบรม โดยมี พล.ต.ท.ปัญญา  มาเม่น ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.สัญชัย ไชยอำพร รอง ผบช.ภ.2 ในฐานะ ผอ.การฝึกฯ พร้อมคณะนายตำรวจในพื้นที่ ตร.ภ.2 ร่วมให้การต้อนรับ

     พล.ต.ต.สัญชัย  ไชยอำพร รอง ผบช.ภ.2 ในฐานะ ผอ.การฝึก การควบคุมฝูงชนตำรวจภูธรภาค 2 ประจำปี 2555 ได้กล่าวว่าการฝึกในครั้งนี้ เป็นการฝึกทบทวน เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถ ด้านการปราบจลาจลให้เป็นไปตามแบบฉบับสากล (UN) ด้วยยุทธวิธีรูปขบวน ควบคุมฝูงชน การสลายฝูงชน เพื่อรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุม การใช้กระบองและโล่ การข่มขวัญ และการป้องกันอย่างถูกวิธีให้มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานขององค์การสหประชาชาติ ( UN ) ซึ่งเป็นแบบสากลที่ยอมรับกันทั่วโลก ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์และเหตุการณ์ทางการเมืองที่อาจจะเกิดมีการชุมนุมขึ้น โดยกำหนดให้สามารถเคลื่อนย้ายกำลังได้ภายใน 1 ชั่วโมง โดยมี ข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร และประทวน จาก 3 จังหวัด ในพื้นที่ภาคตะวันออก ประกอบด้วย จว.จันทบุรี ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี รวม 560  นาย เข้าร่วมการฝึกอบรม ภายใต้การควบคุมของ พ.ต.อ.สมนึก บุรมิ รอง ผบก.ภ.จว.จันทบุรี ในฐานะหัวหน้าชุดควบคุมการฝึก และ พ.ต.ท.ยอดชาย จำปาทอง รอง ผกก.สภ.สอยดาว จว.จันทบุรี ในฐานะวิทยากรและหัวหน้าครูฝึก 

     การสาธิตการฝึกในครั้งนี้ได้แบ่งกำลังออกเป็น 3 กองร้อย ตามรูปแบบการฝึกการปราบจลาจล แบบฉบับสากล ( UN ) หรือเรียกว่า “แผนกรกฎ 52” คือ แผนที่ปรับมาจาก “แผนกรกฎ 48” ที่เคยใช้รับมือม็อบเสื้อแดง-เสื้อเหลือง โดยเฉพาะเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 51 เพื่อเป็นการลดขั้นตอน แต่เพิ่มรายละเอียดการปฏิบัติในส่วนของขั้นตอนการจับกุม จากเดิมแผนกรกฎ 48 ระบุเพียงแค่การจับกุมเท่านั้น แต่แผนกรกฎ 52 ซึ่งจะระบุขั้นตอนการจับกุมอย่างละเอียด ได้แก่ ยุทธวิธีการจับกุมฝูงชนด้วยมือเปล่า เทคนิคแบบจับล็อค เทคนิคแบบจับล็อคและยกตัวให้ลอยขึ้นโดยไม่ให้เท้าแตะพื้น เทคนิคแบบพลิกโล่แล้วล็อคผู้ชุมนุม โดยจะมีการเพิ่มความเข้มขึ้นตามลำดับ จนถึงบังคับการใช้กุญแจมือ การใช้คลื่นเสียงก่อกวน แต่หากมีการใช้แก๊สน้าตาแล้วยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การชุมนุมได้ แผนกรกฎ 52 ได้เพิ่มขั้นตอนการใช้โล่ กระบอง เครื่องช็อตไฟฟ้า และกระสุนยางเป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งแผนกรกฎ 52 ยังระบุถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมสถาน การณ์การชุมนุม ต้องไม่ทำให้ผู้ชุมนุมเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยแต่ละขั้นตอนจะมีการประกาศให้ทราบอย่างต่อเนื่องโดยทั่วกันก่อนจะเข้าควบคุมฝูงชน ซึ่งหากองค์กรอิสระเห็นว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ของผู้ชุมนุมก็สามารถโต้แย้งก่อนเจ้าหน้าที่จะดำเนินการได้

     พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.และที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงกล่าวว่า ได้เห็นการฝึกในครั้งนี้แล้วมีความพอใจในระดับหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากการฝึกการควบคุมฝูงชนมีรายละเอียดมากมาย ดังนั้นจะต้องมีการฝึกเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง บทเรียนจากการชุมนุมที่มีให้เห็นบ่อยครั้ง ขอให้นำมาวิเคราะห์และนำมาเป็นบทเรียน การปฏิบัติในพื้นที่จริงอย่างไรขอให้มีการฝึกอย่างนั้น ฝูงชนทีมารวมตัวกันก็จะเกิดไม่กี่ที่ อาทิ บริเวณหน้ารัฐสภา  บนถนนมรรควาฬ และบริเวณหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขอให้นำมาเป็นบทเรียนและได้มีการฝึกในพื้นที่จริง ส่วนอาวุธยุทโธปกรณ์สิ่งไหนที่ขาดขอให้หามาเติมให้เต็ม ต่อไปในอนาคตอยากเห็นภาพการฝึกคล้ายของจริงมากที่สุด เริ่มจากการจัดกำลังเป็นรูปขบวนต่างๆ ไปจนถึงการใช้กำลังและการใช้แก๊สน้ำตาเป็นมาตรการสุดท้าย 

     พร้อมได้กล่าวอีกว่า กำลังพลทั้ง 3 กองร้อย ที่เข้ารับการฝึกอบรมในการสลายฝูงชนครั้งนี้ จะถูกส่งไปดูแลความเรียบร้อยให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเดินทางมาเป็นประธานการประชุม ครม.สัญจร ณ โรงแรมรอยัล คลิฟบีช รีสอร์ทพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในระหว่างวันที่ 18 – 19 มิ.ย.55 หลังมีกระแสข่าวว่า จะมีประชาชนบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาล ออก มารวมตัวชุมนุมประท้วง จึงหวั่นเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยขึ้นเหมือนเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 52 กับเหตุ การณ์ชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่เข้าขัดขวางการประชุมอาเซียนจนต้องล้มเลิกในสมัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐ มนตรี เมื่อมีบทเรียนจึงทำให้กรมตำรวจมีการเตรียมความพร้อม ในการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อคุ้มกันบุคคลสำคัญ หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกด้วย

อุดมเกียรติ  ทิพย์ศรีกุล อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 0/81-3455203