เจ้าเหมียวพัดหลงแม่เดินตกท่อน้ำฝนความสูง 3 เมตร ตัวจมน้ำชูคอในรูท่อนาน 13 ชั่วโมง

    เรื่อง นี้ได้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 00.10 น. ของวันที่ 17 มิ.ย. 52 เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองสัตหีบ ได้รับแจ้งจาก นายวราพงศ์ ชาวใต้ อายุ 27 ปี พนักงานจัดเลี้ยงกิจการอาคารรับรอง ฐานทัพเรือสัตหีบ ว่าได้มีลูกแมวพลัดตกลงไปในท่อน้ำฝนภายในห้องประกอบอาหารนานร่วม 13 ชั่วโมง ขอให้มาทำการช่วยเหลือโดยด่วน

   หลัง รับแจ้งได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณท่อเหล็กที่ต่อลงมาจากรางน้ำฝนลงสู่ท่อน้ำทิ้ง มีความกว้าง 15 ซม. สูง 3 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามใช้มือล้วงเข้าไปในท่อน้ำทิ้งที่เชื่อมต่อกับท่อ น้ำดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จเนื่องจากมีความลึกมาก เสียงของลูกแมวได้ร้องดังถี่ขึ้นเลื่อย ๆ ประกอบกับเจ้าสามสีผู้เป็นแม่ได้เดินวนเวียนด้วยความเป็นห่วงลูกอยู่บริเวณ ดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจรื้อหลังคาเพื่อช่วยเหลือแมวขึ้นมาจากด้านบน ขณะที่เปิดหลังคาออกพบว่าตัวลูกแมวอายุประมาณ 2 เดือน ได้จมอยู่ในน้ำเหลือเพียงหัวที่ชูคออยู่เหนือผิวน้ำ เจ้าหน้าที่ได้ใช้เชือกทำปมและหย่อนลงไปในรูท่อเพื่อให้ลูกแมวได้ใช้กรงเล็ม เกี่ยวเชือก แต่ทุกครั้งที่ลูกแมวสามารถใช้กรงเล็บเกี่ยวไว้ได้ถึง 3 ครั้ง แต่ก็หลุดระหว่างดึงขึ้น จนเวลาผ่านไปนานกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เชือกทำบ่วงและผูกเงื่อนกระตุก ทำการคล้องตัวลูกแมวแต่การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากรูท่อมีขนาด เท่าตัวลูกแมว ในที่สุดลูกแมวได้พยายามตะเกียงตะกายเอาชีวิตรอดเข้ามาอยู่ในบ่วงเชือกทำให้ เจ้าหน้าที่สามารถใช้เชือกรัดตัวดึงขึ้นมาจากรูท่อได้สำเร็จ และได้ทำความสะอาดตัวก่อนส่งคืนเจ้าสามสีผู้เป็นแม่

     จาก การสอบถาม นางสายทอง ดุรงรัตน์ อายุ 44 ปี แม่ครัว ได้กล่าวว่า ลูกแมวที่ตกลงไปในรูท่อเป็นลูกของเจ้าแมวชื่อสามสีที่อาศัยอยู่บริเวณดัง กล่าว ซึ่งเมื่อ 2 เดือนก่อน เจ้าสามสีได้มาคลอดลูกไว้บนหลังคาห้องประกอบอาหารจำนวน 4 ตัว  ก่อน เกิดเหตุในช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ได้ยินเสียงแมวร้องดังออกมาจากบนหลังคา ทุกคนที่ทำงานไม่ได้คิดอะไรเพราะคิดว่าลูกแมวคงอยู่บนหลังคา จนเวลาผ่านไปนานร่วม 13 ชั่วโมงแมวก็ยังไม่หยุดร้องและร้องถี่ขึ้นเลื่อย ๆ จึงรู้ว่าลูกแมวได้พลัดตกลงไปในรูท่อ ซึ่งพนักงานในห้องครัวได้พยายามหาวิธีช่วยเหลือกันทุกวิถีทางแต่ก็ไม่สำเร็จ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการช่วยเหลือดังกล่าว

นิราช ทิพย์ศรี  ภาพ / ข่าว