Home
|
ลูกนกกระเรียน สมาชิกใหม่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่านกน้ำบางพระ |
|
สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่านกน้ำบางพระ ประสบความสำเร็จได้สมาชิกใหม่เป็นลูกนกกระเรียน สัตว์ป่าสงวนซึ่งปัจจุบันได้สูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติในประเทศไทยแล้ว
นายทรงกลด ภู่ทอง หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่านกน้ำบางพระ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า เป็นที่น่ายินดีที่ปีนี้ทางสถานีได้สมาชิกใหม่เป็นลูกนกกระเรียนจำนวน 1 ตัว และอีก 1 ตัว ยังฟักอยู่ในไข่อยู่ ซึ่งทางสถานีได้แยกแม่กับลูกคู่นี้ออกมาโดยลำพัง เนื่องจากนกกระเรียนเป็นสัตว์ที่ตื่นกลัวตกใจง่ายเกรงว่าอาจเหยียบไข่ลูกตัวเองที่ยังไม่ฟักออกมา โดยนกกระเรียนเป็นสัตว์ที่เพาะพันธุ์ลูกออกมาได้ยากมาก และนกกระเรียนนี้มีสถานภาพทางกฎหมายเป็นสัตว์ป่าสงวน ปัจจุบันได้สูญพันธ์ไปจากธรรมชาติแล้วและมีอยู่เพียงสถานีนี้แห่งเดียวในประเทศไทยที่เพาะเลี้ยงนกกระเรียน โดยในปัจจุบันมีนกกระเรียนอยู่จำนวน 40 ตัว ลักษณะเป็นนกขนาดใหญ่ รูปร่างคล้ายนกกระสา คอยาว ขายาว จงอยปากตรงปลายเรียวแหลม ส่วนใหญ่ขนของลำตัวเป็นสีเทา แต่ขนปลายปีกสีค่อนข้างดำ คอตอนบนและหัว เป็นหนังเปลือยเปล่าสีแดง ไม่มีขน ตอนหน้าผากและตอนบนของหัว นั้นเป็นหนังสีเขียวอ่อน ๆ ข้างแก้มและท้ายทอย ปากสีดำแกมเขียว แข้งและนิ้วเท้าเป็นสีชมพูเรื่อ ๆ ขนาดลำตัวยาวประมาณ 1.52 เมตร สูงราว 1.5 เมตร มีน้ำหนัก ตัวประมาณ 5 - 12 กิโลกรัม เป็นนกที่สูงและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เวลาบินจะยืดคอตรงไปข้างหน้า แต่พวกนกกระยาง และ นกกระสาเวลาบินจะงอคอเข้าหาอก กระเรียนไทย เป็นนกที่มีขนาดใหญ่มากเพศเมีย มีลักษณะรูปร่างและสีขนเหมือนกัน เพียงแต่เพศผู้สูงกว่าเพศเมียเล็กน้อย การแยกเพศ จึงต้องอาศัยการสังเกตพฤติกรรม และเสียงร้องเกี้ยวพาราสี ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ หากเป็นลูกนกที่เกิดพร้อมกันและ เลี้ยงไว้ด้วยกันก็พอจะแยกเพศ โดยดูจากขนาดได้ นกกระเรียนไทยได้สูญพันธุ์ไปจากประเทศไทยนานมาแล้ว ปัจจุบันนกกระเรียนไทยได้ถูกจัดให้เป็นสัตว์ป่าสงวน ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ซึ่งเป็นหนึ่งใน 15 ชนิดสัตว์ป่าสงวนของไทย
|
|
|
Date
อังคาร, 30 เมษายน 2024
|