บีบไทยหนักให้เปิดตลาดนำเข้าไก่แปรรูปหวั่นเปิดช่องสวมสิทธิ์ไก่ไทยส่งออกไปตลาดอียู-ญี่ปุ่นทำพังทั้งระบบชี้สถานการณ์ไก่เนื้อในประเทศกำลังแย่หากนำเข้ามาอีกได้เห็นม้วนเสื่อกันระนาว

     นางฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ล่าสุดมีความพยายามของประเทศจีนในการผลักดันให้ประเทศไทยเปิดตลาดไก่ปรุงสุกหรือไก่แปรรูปให้กับจีน ในเรื่องนี้ผู้ผลิตและส่งออกไก่เนื้อของไทยทั้งรายใหญ่และรายย่อยต่างยอมไม่ได้เพราะเกรงจะส่งผลกระทบในทุกระดับของอุตสาหกรรมโดยในส่วนของการส่งออกหวั่นสินค้าดังกล่าวจะนำเข้ามาสวมสิทธิ์สินค้าไก่ของไทยเพื่อส่งออกไปยังตลาดสำคัญทั้งสหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่นกระทบต่อความเชื่อมั่นของคู่ค้าและผู้บริโภคปลายทางที่ปัจจุบันให้การยอมรับคุณภาพมาตรฐานสินค้าไก่ของไทยอยู่ในลำดับต้นๆ นอกจากนี้จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ในประเทศอย่างรุนแรง เนื่องจากเวลานี้แม้จะยังไม่มีสินค้าไก่จากจีนเข้ามาแต่ผลผลิตไก่ในประเทศได้เกิดสถานการณ์โอเวอร์ซัพพลายทำให้ราคาไก่มีชีวิตหน้าฟาร์มเหลือเพียงกิโลกรัมละ 34-35 บาท จากต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 38 บาทต่อกิโลกรัมทำให้เกษตรกรอิสระรายย่อยขาดทุนกันถ้วนหน้า ยิ่งขณะนี้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ทั้งข้าวโพดและกากถั่วเหลืองราคาพุ่งสูงขึ้นอีกยิ่งทำให้ต้นทุนการเลี้ยงสูงขึ้นหากมีสินค้าจีนเข้ามาอีกจะยิ่งโอเวอร์ซัพพลายหนักยิ่งขึ้น

     ในเรื่องนี้ทางสมาคมไก่เนื้อทั้ง 5 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย สมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ สมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย สมาคมผู้เลี้ยงไก่พันธุ์ และสมาคมผู้เลี้ยงเป็ดเพื่อการค้าและการส่งออกได้ทำหนังสือแสดงจุดยืน 2 ฉบับ เพื่อคัดค้านส่งถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และอธิบดีกรมปศุสัตว์ไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2555 ที่เรากลัวมากคือการถูกสวมสิทธิ์ส่งออกลูกค้าไม่มั่นใจคุณภาพอาจไม่สั่งซื้อ อีกทั้งในประเทศก็ผลิตมากอยู่แล้วหากเราเปิดตลาดไก่สุกให้เขาอนาคตเขาอาจเรียกร้องให้เปิดตลาดไก่สดเป็นสเต็ปต่อไปเพราะกำลังผลิตไก่ของจีนมีมหาศาลเขาก็อยากหาที่ระบาย อีกทั้งหากเราเปิดให้จีนเกรงว่าสหรัฐฯจะขอให้เราเปิดตลาดบ้าง ต่อไปการส่งออกก็จะมีปัญหาในประเทศก็จะกระทบอย่างรุนแรงต้องปิดกิจการและกระทบต่อเนื่องถึงกลุ่มอื่นๆที่เกี่ยวข้อง