เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี

Quick Nav - Menu

KKOPenZoo
the park buffe 499
runsmitivaj
Thaioil
PacificPark
U-BAR
pub 10
Somsri Kitchen
งานกองข้าว2559
แห่พญายม2559
PM-Silalert
ChonburiTV
P'Chun Coffee
JoJo Perfume
สายด่วนพญาไทย

User Menu

Gameboy

Started 14 Feb, 2009

 This site has seen 177,519,149 hits to-date.   This site has seen 177,519,149 hits to-date.   This site has seen 177,519,149 hits to-date.   This site has seen 177,519,149 hits to-date.   This site has seen 177,519,149 hits to-date.   This site has seen 177,519,149 hits to-date.   This site has seen 177,519,149 hits to-date.   This site has seen 177,519,149 hits to-date.   This site has seen 177,519,149 hits to-date.
powered_by.png, 1 kB
Home
“ส่งสัตว์คืนวนา เพื่อป่าสมบูรณ์ ” พิมพ์

กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ร่วมกับสถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระเตรียมปล่อยนกน้ำห ตามโครงการ “ส่งสัตว์คืนวนา เพื่อป่าสมบูรณ์ “ โดยเฉพาะนกกระเรียนคืนสู่ธรรมชาติเพื่ออนุรักษ์นกกระเรียนในไทยไม่ให้สูญพันธุ์

Image

  นายทรงกลด ภู่ทอง นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่านกน้ำบางพระ ได้เปิดเผยว่าทางเจ้าหน้าที่ของสถานี ได้ทำการปรับเตรียมพื้นที่สถานที่ปล่อยนกน้ำหลายชนิดตามโครงการ “ ส่งสัตว์คืนวนา เพื่อให้ป่าสมบูรณ์ ” ซึ่งทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้จัดขึ้น เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 เพื่อเป็นการเพิ่มและฟื้นฟูสัตว์ป่าให้มีความสมดุลในพื้นที่ป่าธรรมชาติ เพิ่มห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศธรรมธรรมชาติ และเพื่อศึกษาการปรับตัว การดำรงชีวิตรวมทั้งพฤติกรรมภายหลังการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติด้วย ทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า โดยจัดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 21 แห่ง ทั่วประเทศในช่วงระหว่างเดือนกรกฏาคมถึงเดือนกันยายน 2555 ในส่วนของสถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ ได้กำหนดปล่อยนกน้ำหลายชนิด อาทิ นกกระเรียน 4 ตัว นกตระกรุม 10 ตัว นกตะกราม 2 ตัว นกกาบบัว 50 ตัว นกกุลาขาว 60 ตัว เป็ดเทา 50 ตัว และเป็ดแดง 10 ตัว รวม 186 ตัว ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในวันที่ 27 กันยายน2555 ที่จะถึงนี้ โดยจะมีประชาชนและเด็กนักเรียนในพื้นที่มาร่วมในงานนี้กว่า 300 คน

Image 


     นายทรงกลด ภู่ทอง นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ ยังกล่าวต่ออีกว่า ทางสถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ ได้เตรียมปล่อยนกกระเรียนคืนสู่ธรรมชาติในครั้งนี้ 4 ตัว เพื่อให้ประชากรของนกกระเรียนได้กลับคืนสู่ถิ่นอาศัยตามธรรมชาติ เพิ่มความหลากหลายของสายพันธุ์นกกระเรียน รักษาความสมดุลของระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติ และประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้า วิจัย ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์งานด้านอนุรักษ์สัตว์ป่าแก่ประชาชน เยาวชนและผู้ที่สนใจ เนื่องด้วยปัจจุบันสถานภาพของสัตว์ป่าโดยทั่วไปในธรรมชาติ กำลังอยู่ในภาวะใกล้ศูนย์พันธุ์จากถิ่นที่อยู่อาศัยเดิม อันเป็นผลเนื่องมาจากการอพยพย้ายถิ่น และการคุกคามของมนุษย์ จึงทำให้ประชากรสัตว์ป่าลดลงไปอย่างรวดเร็ว และจากการวิจัยพบว่าจำนวนประชากรนกกระเรียนเริ่มลดจำนวนลง กลายเป็นสัตว์หายากและสูญพันธุ์ไปจากถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งในอดีตมีการพบเห็นนกกระเรียนจำนวนมากในทุ่งนา หนอง บึง
     ปัจจุบันนกกระเรียนจัดเป็นสัตว์ป่าสงวน 1 ใน 15 ชนิด ของประเทศไทย ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 จากรายงานล่าสุด มีการสำรวจนกกระเรียนพันธ์ไทยทั่วโลก พบว่าเหลืออยู่ประมาณ 500-1,500 ตัว เท่านั้น สถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระประสบผลสำเร็จในการเพาะขยายพันธุ์ได้เป็นจำนวนมาก ขณะนี้มีอยู่กว่า 50 ตัว ที่จะนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป

Image

Image 

      สำหรับนกกระเรียนจัดอยู่ในวงศ์นกน้ำ มีชื่อสามัญว่า Eastern Sarus Crane เป็นนกน้ำขนาดใหญ่ เมื่อโตเต็มวัยมีขนาดความยาวจากปากถึงปลายหาง ประมาณ 1.8-2.2 เมตร น้ำหนักประมาณ 5 กก. ทั้งเพศผู้และเพศเมีย มีลักษณะรูปร่างและสีขนเหมือนกัน การสืบพันธุ์ นกกระเรียนเริ่มจับคู่ผสมพันธ์เมื่ออายุได้ 3-4 ปี การจับคู่ผสมพันธุ์ของนกกระเรียนลักษณะการเกี้ยวราพาสี มีลักษณะพิเศษ และสวยงาม โดยตัวผู้ และตัวเมียจะเปล่งเสียงร้องประสานกัน ตัวผู้จะร้องเสียงยาวระดับต่ำ ขณะร้องจะยืดคอและเงยปากขึ้นสูง กางปีก และยกสูงขึ้นเหนือระดับหลัง ส่วนตัวเมียจะยืนข้างตัวผู้ หุบปีก เงยปากไปด้านหน้า และเปล่งเสียงร้องสั้นๆ 2 - 3 ครั้ง ประสานกับเสียงของเพศผู้ และการสร้างรังรักจะใช้วัสดุจำพวกพืชน้ำ ลักษณะรังคล้ายกระจาด วางไข่บนพื้นดิน เฉลี่ยครั้งละ 2 ฟอง ฟักไข่ 30 - 32 วัน โดยเพศผู้จะอยู่กับเพศเมียเพียงคู่เดียวตลอดทั้งฤดูกาลผสมพันธุ์ ช่วยกันสร้างรังและเลี้ยงลูกอ่อน ฤดูผสมพันธ์จะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนกันยายน ซึ่งเป็นฤดูฝนที่มีความหลากหลายและความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาตินกกระเรียนในโลกนี้มีทั้งหมด 17 ชนิด ในจำนวนนี้มี 7 ชนิด ที่หายากและใกล้จะศูนย์พันธุ์ โดยนกกระเรียนสายพันธ์ไทย ได้จัดอยู่ในสถานภาพนี้ด้วยเหมือนกัน ปกตินกกระเรียนจะชอบอาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำ และบริเวณทุ่งหญ้าที่มีน้ำท่วมขัง โดยอาศัยเป็นคู่ และหากินรวมกันเป็นฝูง อาหารของนกกระเรียนได้แก่ พวกพืชน้ำและสัตว์น้ำเล็กๆ เช่น กุ้ง ลูกปลา และลูกกบโดยในปัจจุบันนี้สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่านกน้ำบางพระ สามารถเพาะนกกระเรียนได้ถึง 42 ตัวแล้วซึ่งก็จะทยอยปล่อยนกกระเรียนคืนสู่ธรรมชาติเพื่อให้ประชากรของนกกระเรียนได้กลับคืนสู่ถิ่นอาศัยตามธรรมชาติ เพิ่มความหลากหลายของสายพันธุ์นกกระเรียน รักษาความสมดุลของระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติต่อไป

Image 

     สำหรับ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำบางพระและสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่านกน้ำบางพระ มีพื้นที่ประมาณ 11,600 ไร่ เป็นพื้นน้ำ ประมาณ 10,200 ไร่ เป็นพื้นป่าปลูกประมาณ 1,400 ไร่ ลักษณะเด่นของพื้นที่ เป็นพื้นน้ำ ทุ่งหญ้า และสวนป่ารอบๆ อ่างเก็บน้ำ ปัจจุบันเกิดเป็นป่าละเมาะร่มรื่น เป็นที่อยู่อาศัยของนกมากมาย เช่น นกกระรางหัวหงอก นกกระรางหัวขวาน นกบั้ง รอก ฯลฯ ภายในอ่างเก็บน้ำก็มีนกสำคัญๆ มาหากิน เช่น นกกาบบัว นกกระทุง นกกระสา ฯลฯ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำบางพระ มีความหลากหลายทางชีวภาพ เพราะมีระบบนิเวศน์ถึง 3 แบบ ในเนื้อที่เพียง 11,600 ไร่ ได้แก่พื้นที่ชุ่มน้ำ ประมาณ 70-75% เป็นทุ่งหญ้าประมาณ 10-15% และป่าละเมาะ 10-15% แล้วแต่ฤดูกาล ทำให้มีนกนานาชนิดที่เหมาะแก่แต่ละพื้นที่ มาอาศัยหมุนเวียนตลอดทั้งปีไม่น้อยกว่า 130 ชนิด ในปัจจุบัน

Image

Image

Image

 

 
< ก่อนหน้า   ถัดไป >

Date

อังคาร, 30 เมษายน 2024
Phyathai
The park Hotel
thailand base 2563
Robinson Sriracha
SRC-monopoly
SS-monopoly
Bangpra-monopoly
LCB-monopoly
ม.บูรพา
PChonburi
แปซิฟิคโฮม-แปซิฟิคซิตี้โฮม
sizzler
kartsพ่นกันสนิมรถยนต์
The park Hotel
เมนูอร่อย 399 แปซิฟิคพาร์ค โฮเทล
(C) 2024 Buraphanews.com
www.buraphanews.com All rights reserved.