กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจัดสัมมนากระตุ้นความรู้ความเข้าใจตลอดอินเดียให้ผู้ประกอบการภาคตะวันออกพิจารณาเป็นตัวเลือกชดเชยตลาดหลักที่เสียไปจากภาวะวิกฤตโลกและการเมืองในประเทศ ระบุประชากรอินเดียส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชนสินค้าประเภทของเล่นน่าสนใจเพราะมีอัตราการเจริญเติบโตที่สูงอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (19 มิ.ย.52) ที่โรงแรมราวินทราบีช รีสอร์ทแอนด์สปา เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายธานี สามารถกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดสัมมนา “กระตุ้นความรู้ความเข้าใจตลาดอินเดียและเตรียมความพร้อมสำรวจตลาดอินเดีย” โดยมีนายอดิสัย ธรรมคุปต์ นักวิชาการพาณิชย์ เชี่ยวชาญ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศร่วมให้การต้อนรับและเป็นวิทยากรให้ความรู้ ท่ามกลางตัวแทนผู้ประกอบการต่างๆ ในเขตพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกจำนวนมาก นายอดิสัย กล่าวว่า จากวิกฤตเศรษฐกิจโลกทำให้หลายประเทศได้รับผลกระทบอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการหดตัวของการส่งออกจนทำให้ต้องมีการให้ความสำคัญในการขยายตลาดอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อชดเชยตลาดหลักที่หายไป ซึ่งประเทศอินเดียนับเป็นอีกหนึ่งประเทศยักษ์ใหญ่ที่มีกำลังซื้อสูงเพราะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและเป็นหนึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตดังกล่าวประมาณ 0.2 % หรือแทบจะไม่ได้รับผลกระทบเลยก็ว่าได้ จึงเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย นอกจากนี้ตัวเลข GDP ของอินเดียมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 8 ต่อปี ประกอบกับมีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลกถึง 1,100 ล้านคน จึงถือได้ว่าเป็นมหาอำนาจใหม่ทางเศรษฐกิจในเอเชียก็ว่าได้ แต่ปัจจุบันยังมีช่องว่างในการขยายการส่งออกกับประเทศไทย หลังจากมีการเปิดเสรีการค้าร่วมกัน และระยะ 3 ปีที่ผ่านมา การค้าไทย-อินเดียมีมูลค่าเฉลี่ยที่ปีละ 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การส่งออกของไทยไปอินเดียเฉลี่ยที่ 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และนำเข้าเฉลี่ยที่ 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ นายอดิสัย ระบุด้วยว่า ในปี 2551 ที่ผ่านมาการค้าร่วมไทย-อินเดียมีมูลค่าสูงกว่าถึง 6 พัน ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งโตจากปี 2550 ประมาณ 27.3 % ซึ่งไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้ากับอินเดียถึง 783.18 ล้านเหรียญสหรัฐฯถือได้ว่าเป็นตลาดที่ถูกมองข้าม โดยจะมีการจัดการสัมมนาอย่างนี้อีก 2 ครั้ง ประมาณเดือนกรกฎาคมที่จังหวัดขอนแก่นและกรุงเทพฯ ก่อนปลายปี 52 จะมีโครงการต่อเนื่องเพื่อคัดเลือกตัวแทนของภาคต่างๆ ที่เข้าร่วมสัมมนาไปสำรวจตลาดและดูลู่ทางการทำธุรกิจในตลาดอินเดียในการต่อไป ด้านนางสาวบุณิกา แจ่มใส ผู้อำนวยการส่วนเอเชียใต้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า อินเดียยังมีความน่าสนใจในการลงทุนอยู่ไม่น้อย โดยในส่วนของประชากรเด็กมีอัตราการเกิดสูงกว่า 2 % ต่อปี เฉลี่ยรวมมีสูงกว่า 62 % อายุระหว่าง 0-15 ปีมีสูงถึง 26 % ทั้งนี้เพราะประเทศอินเดียส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดูจึงไม่มีการให้ความสำคัญเรื่องการคุมกำเนิดในประเทศ ส่งผลให้มีจำนวนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี สินค้าประเภทสินค้าเด็ก ของเล่นทารกจึงเป็นตัวที่สินค้าที่ไม่ควรมองข้าม และความนิยมของประชากรอินเดียในเรื่องของสัตว์เลี้ยงก็มีอัตราการเติบโต สินค้าประเภทอาหารสัตว์จึงเป็นอีกหนึ่งชนิดที่น่าจับตามองด้วยเช่นกัน เพราะปัจจุบันประชากรระดับสูงถึงระดับกลางของอินเดียมีการเติบโตทางรายได้ที่มากขึ้น และตลาด 2 กลุ่มนี้ก็ยังให้ความสนใจต่อสินค้าทั้ง 2 ชนิดข้างต้นอีกด้วย |