ตำรวจและคนขับเก๋งอัลติสที่พลิกคว่ำล้อชี้ฟ้าไฟลุกท่วมคัน ยืนยันไม่ได้โดนแก๊งปาหินปาใส่ทำให้เกิดเหตุในครั้งนี้

      เมื่อเวลา 10 .00 น. ที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงเขาเขียว ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พ.ต.ท.อนันต์ กลมทุกสิ่ง สารวัตรเวร สทล.เขาเขียว พร้อมด้วย นายมานิตย์ แห่กลาง อายุ 41 ปี คนขับรถเก๋งอัลติสพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้าไฟลุกท่วมคัน เข้าดูสภาพรถเก๋งโตโยต้าอัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียน ญท 7268 กทม สภาพไฟไหม้วอดทั้งคัน นอกจากนี้ยังพบหินขนาดใหญ่ 1 ก้อน ตกอยู่เบาะหลังข้างคนขับภายในรถเก๋ง

     พ.ต.ท.อนันต์ กลมทุกสิ่ง สารวัตรเวร สทล.เขาเขียว กล่าวว่า สำหรับคดีเก๋งอัลติสพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้าไฟลุกท่วมนั้นไม่หน้าจะเกิดจากแก๊งปาหิน เพราะการตรวจสอบเบื้องต้นของด้านหน้ารถสภาพพังยับเยินเหมือนชนท้ายรถใหญ่แต่หากถูกปาหินใส่รถ คนขับรถหน้าจะเจ็บมากกว่านี้ประกอบกับ นายมานิตย์ คนขับ ให้การณ์ว่า ตนเองเดินทางมาจากกรุเทพมหานครเพื่อมุ่งหน้าไป ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา ขณะกำลังขับรถมาเกิดหลับในและไม่ทราบว่ารถชนกับอะไรเหมือนกันมารู้ตัวอีกที่ออกมาจากรถเก๋งอัลติสแล้วช่วงนั้นไฟลุกท่วมคัน

     นายมานิตย์ แห่กลาง อายุ 41 ปี คนขับรถเก๋งอัลติส กล่าวจากเหตุการณ์รถเก๋งอัลติสพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้าไฟลุกท่วมคันยืนยันอุบัติเหตุในครั้งนี้ไม่ใช่เกิดจากการถูกปาหินใส่ หลังมีชาวบ้านพบเหตุก้อนหินตกอยู่ในรถหลังเจ้าหน้าที่ดับไฟไหม้รถเสร็จสิ้น แต่หน้าจะเกิดจากพลเมืองดีใช้ก้อนหินทุบกระจกเพื่อช่วยเหลือตนหรือทุบกระจกเพื่อใช้น้ำดับไฟในรถแต่ตนยืนยันไม่ใช่ถูกปาหินใส่รถอย่างแน่นนอนอุบัตเหตุในครั้งเกิดจากการหลับใน