หลังจากแม่เต่าขึ้นวางไข่และลงทะเลไปแล้ว จะกลบหลุมไข่เพื่อให้ลูกเต่าฟักขึ้นเองตามธรรมชาติอยู่ใต้พื้นทรายจนครบกำหนด เมื่อลูกเต่าออกจากไข่ลืมตาดูโลกก็จะรีบคลานออกจากหลุมกำเนิด มุ่งหน้าลงสู่ทะเลอย่างสุดชีวิต เพื่อหนีจากศัตรูหรือสัตว์อื่นที่จะมาทำอันตรายหรือจับกินเป็นอาหาร

     จากกรณีที่ “แม่เต่าเทียนทะเล” เต่าตนุสาววัย 25 ปี ย้อนรอยกลับถิ่นกำเนิดขึ้นวางไข่ ณ บริเวณชายหาด ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังจากถูกปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ณ บริเวณชายหาดแห่งนี้ไปเมื่อ 25 ปีก่อน และได้ย้อนรอยกลับมายังถิ่นกำเนิด เพื่อขึ้นวางไข่บนชายหาดและจากการตรวจพบโดยไมโครชิพที่ติดอยู่กับตัวแม่เต่าทราบว่า แม่เต่าสาวเทียนทะเลตัวนี้ ได้ถูกปล่อยลงไปจากชายหาดแห่งนี้ เมื่อ 25 ปีก่อน เมื่อครบกำหนดวางไข่ จึงได้ย้อนรอยกลับมายังถิ่นกำเนิด เพื่อขึ้นวางไข่บนชายหาดแห่งนี้ 

     นาวาโท ขวัญเมือง คเรศตรี หัวหน้าแผนกแผนและโครงการ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ ที่ได้รับมอบหมายจาก พลเรือตรี นพดล สุภากร ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และนาวาเอก สมประสงค์ วิศลดิลกพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือว่า ลูกเต่าดังกล่าวเกิดขึ้นจาก “แม่เต่าเทียนทะเล” ที่ได้ขึ้นมาวางไข่ในครั้งแรก และในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ของรอบปี และจากการตรวจสอบโดยไมโครชิพที่ติดตัวแม่เต่าพบว่า แม่เต่าสาวตัวนี้ ได้ถูกปล่อยจากชายหาดแห่งนี้ไปเมื่อ 25 ปีก่อน และได้ย้อนรอยกลับมายังถิ่นกำเนิด เพื่อขึ้นวางไข่บนชายหาดแห่งนี้รวมแล้ว 2 ครั้ง เมื่อปี พ.ศ.2548 และ พ.ศ.2553 โดยแม่เต่าจะขึ้นวางไข่เพื่อเผยแพร่พันธุ์ ระยะห่างกันประมาณ 3-5 ปี/ครั้ง โดยจะใช้ระยะเวลาในการฟักตัวประมาณ 50 วัน ลูกเต่าก็จะออกจากไข่ลืมตาดูโลก และรีบคลานลงสู่ทะเลในทันทีด้วยการ “หนีสุดชีวิต” จากศรัตรูที่จะเข้ามาทำร้ายและจับกินเป็นอาหาร เนื่องจากลูกเต่าเมื่อออกจากไข่ใหม่ๆ ตัวจะอ่อนนิ่มเหมาะที่จะเป็นอาหารของสัตว์ประเภทต่างๆ เมื่อลงทะเลแล้วถือว่าปลอดภัย ส่วนจะอยู่รอดจากจากสัตว์ในท้องทะเลจับกินเป็นอาหารหรือไม่ก็แล้วแต่โชคชะตาของลูกเต่า ซึ่งจากการตรวจสอบสถิติพบว่า อัตราการรอดชีวิตของลูกเต่าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจะมีเพียง 1 ใน 1,000 ตัวเท่านั้นที่รอดชีวิต 
     ดังนั้นกองทัพเรือ จึงได้ตั้งศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลขึ้น ด้วยการเฝ้าดูแม่เต่าขณะที่ขึ้นมาวางไข่บนชายหาดและเกาะแก่งต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือ และสังเกตลักษณะของหลุมที่แม่เต่าใช้วางไข่ ว่าอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่เจ้าหน้าที่จะสามารถมองเห็นได้สะดวก น้ำทะเลไม่ท่วมถึง และไม่มีศัตรูที่จะมากินไข่ เมื่อลูกเต่าเกิดแล้วก็จะนำมา เพาะเลี้ยงยังบ่ออนุบาลเต่าให้แข็งแรงพอ ก็จะนำปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้ลูกเต่ามีปริมาณอยู่รอดเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล /นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 081-3455203/087-5871068