จังหวัดชลบุรี จัดงานประเพณีเทศกาลวันเข้าพรรษา

       วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 จังหวัดชลบุรี จัดรถขบวนแห่เทียน ในการส่งเสริมประเพณีเนื่องในเทศกาลวันเข้าพรรษา ประจำปี 2552 โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธี

       งานถวายเทียนพรรษา เป็นโบราณประเพณีสืบมาแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี คนไทยได้ช่วยกันประคับประคองงานประเพณีนี้สืบมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน แม้แต่องค์พระมหากษัตริย์ก็ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ทรงหล่อเทียนพรรษา ทรงเจิมเทียนพรรษา ถวายยังพระอารามหลวงเป็นราชประเพณีสืบทอดมาถึงทุกวันนี้

       นางนิภา เจียมโฆสิต วัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า เนื่องในเทศกาลวันเข้าพรรษา จังหวัดชลบุรี ร่วมกับวัฒนธรรมจังหวัด เทศบาลเมืองชลบุรี และยุวพุทธิกสมาคมชลบุรีในพระสังฆราชูปภัมภ์ ได้ร่วมกันจัดงานส่งเสริมประเพณีเนื่องในเทศกาลวันเข้าพรรษาจังหวัดชลบุรี ประจำปี 2552 นับเป็นปีที่ 53 ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ที่ตั้งเจตจำนงอันแน่วแน่ในการที่จะธำรงรักษาไว้ ซึ่งโบราณประเพณีและศาสนพิธีของชาวพุทธ สืบทอดเป็นสมบัติของชาติ และมรดกทางวัฒนธรรมไทยต่อไป

       สำหรับการจัดงานส่งเสริมประเพณีเนื่องในเทศกาลวันเข้าพรรษจังหวัดชลบุรี ประจำปี 2552 ได้จัดกิจกรรมที่สำคัญของงานคือ การประกวดขบวนแห่เทียนพรรษา ซึ่งในปีนี้ได้มีหน่วยต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมไปถึงสถานศึกษาต่างๆ ได้ร่วมขบวนแห่จำนวน 10 ขบวน แต่เข้าประกวดจำนวน 6 ขบวน กิจกรรมต่อมาเป็นการมอบทุนการศึกษาจำนวน 120 ทุน กิจกรรมต่อมามอบเทียนเข้าพรรษาให้อำเภอทุกอำเภอ จำนวน 371 ต้น ต่อมาพิธีมอบของที่ระลึก พร้อมเงินสนับสนุนหน่วยงานที่ส่งเทียนพรรษเข้าร่วมกิจกรรม จำนวนแห่งละ 2,000 บาท และสุดท้ายมีพิธีมอบถ้วยรางวัลพร้องเงินรางวัลขบวนแห่เทียนพรรษา ที่ชนะการประกวด จำนวน 5 รางวัล ตามลำดับ

      นายเสนีย์  จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า การจัดงานแห่งเทียนพรรษา แม้จะปรับปรุงพัฒนานาตามยุคตามสมัยแต่ก็ยังจำเป็นต้องร่วมใจกันรักษาประเพณีไว้ให้ปรากฏสืบไป ด้วยความภาคภูมิใจประเพณีไทย เอกลักษณ์ไทย คนไทยไม่ช่วยกันรักษาแล้วจะปล่อยให้ชาติไหนมารักษา การที่สถาบันการศึกษาต่างๆ ได้ส่งเทียนพรรษาเข้าประกวดกัน นองจากเป็นการแสดงน้ำใจที่จะร่วมรักษาประเพณีอันดีงามของชาติไว้ ยังเป็นการแสดงออกชี้ให้เป็นถึงศักยภาพในการร่วมมือร่วมใจของแต่ละสถาบันด้วยว่า ทำด้วยใจรัก ด้วยแรงศรัทธา หรือทำพอเป็นพิธี ประชาชนที่ชมขบวนแห่จะให้คำตัดสินเอง การได้รับรางวัลหรือไม่นั้น อย่าถือเป็นปัญหาในการทำงาน ของให้ถือหลักการและอุดมการณ์ในการทำงาน เพื่อการกุศลเป็นหลัก เพื่อการประกาศว่ายังรักประเพณีคู่บ้านคู่เมืองนี้ และสืบสานต่อไป