หนุ่มกองช่างเทศบาลชะตาขาด หลังดวดสุราจนได้ที่ขี่รถ จยย.ไปเก็บเบ็ด ถูกเก๋งเฉี่ยวจนล้มลงกลางถนน ขณะ จะลุกขึ้น ถูกเก๋งขับมาชนและทับซ้ำดับอนาถใต้ท้องรถรับเทศกาลเข้าพรรษา

     เมื่อเวลา 00.30 น. คืนวันที่  22 ก.ค.56  ร.ต.ท.วัชรพล ไวยศุศรี ร้อยเวร สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งจากนาย ชิน แก้วสังข์ กำนันตำบลบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่าได้เกิดเหตุรถยนต์ชนกันหลายคันมีคนเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุบนถนน สุขุมวิท หลัก กม.ที่ 166  หน้าโครงการหมู่บ้านนาวีเฮ้าส์  23  ม.9 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ ฝั่งขาเข้าเมืองพัทยา ขอให้มาตรวจสอบด้วย เนื่องจากมีการจราจรคับคั่งหวั่นเกิดเหตุซ้ำซ้อน
     หลังรับแจ้ง จึงได้รีบรุดมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหน่วยกู้ภัยมูลนิธิโรจนธรรมสถานสัตหีบ ให้สัญญาณการ จราจรบนถนนอย่างเข้มงวดหวั่นเกิดอุบัติซ้ำซ้อน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีไฟส่องสว่างเพียงเล็กน้อย และจากการตรวจสอบพบรถ จยย. ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน-บร์อน ทะเบียน คยพ 122 ชลบุรี ล้มอยู่บนถนนในสภาพพังเสียหาย ห่างไปประมาณ 20 เมตร มีรถยนต์นิสสัน สีบอรน-ทอง ทะเบียน ญผ 2105 กทม.  บริเวณช่วงหน้ารถทับอยู่บนร่างของผู้เสียชีวิตจนเลือดไหลนองพื้นทราบชื่อต่อ มาคือ นายสายฝน หัสสา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 ม.9 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ ลูกจ้าง สังกัดกองช่างโยธา เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว โดยมี นางสาวเขมิกา บุญมาก อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/21 ม.6 ต.สัตหีบ พนักงานจ้าง รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ  เจ้าของรถยนต์คันเกิดเหตุยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตกใจกับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยหน่วยกู้ภัยได้ช่วยกันยกรถและนำร่างของผู้เสียชีวิตออกจากใต้ท้องรถส่ง ชัน สูตรในเบื้องต้นที่ รพ.สัตหีบ กม.10 และห่างไปประมาณ 30 เมตร พบรถยนต์ โตโยต้า วีออส ทะเบียน กย 9775 ชลบุรี จอดอยู่ริมถนน มีนางอารยา ทองคำ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 208/1 ม. 7 ต.พลุตาหลวง อ.สัตหีบ อาชีพแม่ค้าขายส่งสินค้าสัตหีบ ที่ชนคนแรกจนเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนยืนรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ด้วยอาการ ตกใจเช่นกัน  
     จากการสอบสวน นางเขมิกา บุญมาก เจ้าของรถยนต์นิสสัน ให้การว่าในขณะขับรถยนต์มาจากสัตหีบ เพื่อเข้าไปทำธุระที่เมืองพัทยา ได้เห็นรถ จยย. ล้มอยู่บนถนน ในระยะกระชั้นชิดแต่เบรคไม่ทันจึงพุ่งเข้าชนจนรถ จยย. กระเด็นไปอยู่อีกฝั่งของถนนและยังได้เข้าชนและลากร่างของ นายสายฝน หัสสา ที่เกิดอุบัติเหตุล้มอยู่กลางถนนจนร่างติดอยู่ใต้ท้องรถเสียชีวิตดังกล่าว
     ด้าน นางอารยา ทองคำ ให้การว่า ในขณะขับรถยนต์ออกจากสัตหีบ เพื่อเดินทางไปเยี่ยมลูกสาวที่จังหวัดนครปฐม เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มี นายสายฝน หัสสา ขี่รถ จยย. ตัดหน้าอย่างกระชั้นชิด ตนได้พยายามเบรคแล้วแต่เบรคไม่ทัน จึงได้เฉี่ยวชนและร่างของผู้ตายกระเด็นออกจากรถ จยย. ล้มอยู่กลางถนน จึงได้รีบจอดข้างทางเพื่อจะเข้าไปช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าได้มีรถยนต์ที่ขับตามมาชนและทับซ้ำจน นายสายฝน เสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตาดังกล่าว
     ด้าน นางปรารถนา หัสสา อายุ 29 ปี ภรรยาของผู้ตายกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุสามีได้ดื่มเหล้าตั้งแต่เช้าจนกระทั่งช่วงเย็นของวันเดียวกัน ได้ขี่รถ จยย. ออกไปเก็บกู้เบ็ดที่คลองบริเวณข้างอ่างเก็บน้ำทหารเรือบางเสร่ เพื่อนำปลามาเป็นอาหารช่วงวันหยุดเข้าพรรษา และมาทราบอีกครั้งสามีได้ถูกยนต์ชนและทับซ้ำจนเสียชีวิตดังกล่าว  
     ร.ต.ท.วัชรพล ไวยศุศรี กล่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตน่าจะเกิดจากการเฉี่ยวชนกันในเบื้องต้น ก่อนจะมีรถมาชนทับซ้ำ จึงได้ทำแผนที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำผู้ขับรถยนต์ทั้ง 2 คัน รถยนต์ และรถ จยย. มาที่ สภ.สัตหีบ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงในเบื้องต้น ก่อนดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป  

 อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล /นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 081-3455203/087-5871068