สภาพันธมิตรสัตหีบ เรียกร้อง สำราญ รอดเพชร เดินหน้าการเมืองใหม่ แกนนำเข้าคิวขึ้นเวที
การเมืองใหม่เข้มแข็ง แกนนำพันธมิตรเข้าคิวขึ้นเวทีให้ความรู้การเมืองใหม่ ชูแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจ และการศึกษา ต้องใช้เวลาเยี่ยงพระยาตากสินกู้ชาติ ยังไม่ทิ้งการต่อสู้บนถนน สมาชิกสภาพันธมิตรสัตหีบ เกือบ 1,000 คน เข้าร่วมรับฟังแกนนำ พิภพ ธงไชย สำราญ รอดเพชร ประพันธุ์ คูณมี พลเรือโท ประทีป ชื่นอารมณ์ ให้ความรู้การเมืองใหม่ แก้ไข เศรษฐกิจความต่างรวย-จน และการศึกษา ไม่หยุดนิ่งปลุกกระแสนักรบมือตบปรับกลยุทธใหม่ขยายเครือข่ายยึดพื้นที่ รัฐรอเวลาระเบิด เสื้อแดงแรงฤทธิ์ ส่วนพันธมิตรเรียกร้องความเป็นธรรม จากกรณีที่เหล่าพันธมิตรสัตหีบ ชลบุรี ได้มาแสดงพลังอันยิ่งใหญ่เพื่อเปิดสภาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสัตหีบแห่งแรกของประเทศไทย ณ โรงแรม ซีพาราไดซ์ หมู่ที่ 6 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งพันธมิตรได้มีการรับรองให้ พลเรือเอก ไพโรจน์ ธีรชัย นายทหารนอกราชการ(เกษียณอายุ)กองทัพเรือ เป็นประธานสภา และรับรองให้ นายสนธยา ปรียากร หรือเล็ก น้ำแข็งหลอด สัตหีบ เป็นรองประธานสภา และได้มีการเลือกผู้ประสานงานประจำตำบลสัตหีบ 5 คน ตำบลบางเสร่ 3 คน ตำบลแสมสาร 3 คน ตำบลนาจอมเทียน 3 คน และตำบลแสมสาร 3 คน ทั้งหมด 17 คน เพื่อเป็นผู้แทนในการประสานงานระหว่างท้องถิ่นกับส่วนกลาง ในการสนับสนุนพรรคการเมืองใหม่ภายใต้การขับเคลื่อนของประชาชน ความคืบหน้าในเรื่องนี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันเดียวกัน ได้มีศิลปินนักร้อง หรั่ง ล็อกเกตตร้า และประทีป ขจัดพาล มาร้องเพลงเพื่อสร้างความครึกครื้นให้กับนักรบมือตบ และเป็นการหวนรำลึกอดีต 193 วันแห่งเวทีกลางแจ้งการต่อสู้ขับไล่ 2 รัฐบาลประสบความสำเร็จ มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และได้รับเกียรติ จาก นายพิภพ ธงไชย เป็นแกนนำท่านแรกที่ขึ้นเวทีให้ความรู้กับสมาชิก สภาพันธมิตรสัตหีบ เกือบ 1,000 คน ที่มาร่วมรับฟังปัญหา และแนวทางการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ ซึ่งได้มีแกนนำอีกหลายท่าน เช่น นายสำราญ รอดเพชร นายประพันธุ์ คูณมี พลเรือโท ประทีป ชื่นอารมณ์ และคาดว่าน่าจะมีแกนนำอีกหลายท่านเดินทางมาสมทบให้ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินการพรรคการเมืองใหม่ ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายพิภพ ธงไชย กล่าวว่า ทุกคนต้องช่วยกันสร้างการเมืองใหม่ให้แข็งแกร่ง พร้อมที่จะต่อสู้กับพรรคอื่น ๆ ถ้ามีการยุบสภาและมีการเลือกตั้งใหม่ แต่มิได้หมายความว่าการรวมตัวประท้วงบนท้องถนนจะหมดไป เราต้องสร้างสภาประชาชนขึ้นมาเพื่อการตรวจสอบ ทักท้วงการกระทำอันมิชอบของรัฐบาล ถ้ารัฐบาลบริหารผิดพลาด คอร์รัปชั่น ไม่สามารถบริหารประเทศได้ หรือขาดจิตสำนึกในความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พันธมิตรประชาชนจะต้องออกมารื้อฟื้นการศึกษาในมหาวิทยาลัยราชดำเนินอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน การแก้ไขปัญหาของประเทศมีตัวอย่างของประเทศเยอรมัน และประเทศรัสเซีย ให้เห็นหรือเป็นแบบอย่างอยู่แล้ว ว่าเป็นอย่างไร ในการแก้ไขปัญหาของประเทศไทย โอกาสแรกต้องทำลายกำแพงกั้นระหว่างคนรวยกับคนจนให้สิ้น การแก้ไขปัญหาที่ 2 ก็คือ ปัญหาเรื่องของการศึกษา ที่ต้องใช้เวลา ดังเช่นพระยาตากสิน รวมพ่ายพล เดินทัพกู้ชาติด้วยความยากลำบากแต่ก็ประสบความสำเร็จ ดังนั้นสภาพันธมิตรที่เกิดขึ้นแล้วแห่งแรกที่อำเภอสัตหีบ และจะมีอีกต่อไปในทุกพื้นที่ เพื่อสั่งสอน ให้บทเรียนราคาแพงกับระบบการเมืองอ่อนแอ ขาดประชาธิปไตย อย่างแน่นอน พรรคการเมืองใหม่จะต้องแข็งแกร่ง นายสำราญ รอดเพชร กล่าวว่า สถานการณ์ และทิศทางของพรรคการเมืองใหม่นั้นได้เกิดขึ้นแล้ว ส่วนตัวเองยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำอย่างไร ซึ่งสภาพันธมิตรได้เรียกร้องให้ นายสำราญ รอดเพชร เข้าสู่พรรคการเมืองใหม่ เพื่อร่วมกันต่อสู้กับพันธมิตรต่อไปอย่างยั่งยืน เพราะขณะนี้ได้ให้โอกาส และรอดูรัฐบาลปัจจุบันมาแล้ว 6 เดือน แต่ไม่มีอะไรเคลื่อนไหว เพราะพรรคประชาธิปัตย์ยังเหยียบเรือ 2 แคม ไม่กล้ายกขาใดขาหนึ่งเกรงเรือจะล่ม จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ “เสื้อแดงแรงฤทธิ์ พันธมิตรเรียกร้องความชอบธรรม” ซึ่งรัฐบาลรอเวลาระเบิดกับเหตุการณ์เสื้อแดงนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ นี่คือระเบิดเวลาที่พันธมิตรจะยอมไม่ได้ เพราะเป็นเกมอัปยศใช้การเมืองกดดันสถาบันบนท้องถนนอาจจะแน่นไปด้วยสีเหลืองอีกก็ได้ และมีเรื่องของที่ยังคาใจในคดี 7 ตุลา และคดีของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล คดีผู้ก่อการร้ายปิดสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง ล้วนแล้วเป็นระเบิดเวลาที่รอการระเบิดทั้งสิ้น เพราะพรรคประชาธิปัตย์ใจดำ ใจร้าย กับพันธมิตรจนเข้าข่ายกระทบกระเทือนศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ คอยดู ประพันธุ์ คูณมี จะต้องกลับคืนพันธมิตรอย่างแน่นอน นายประพันธุ์ คูณมี กล่าวว่า ไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับนักการเมืองที่ขาดจิตสำนึกในเรื่องของ ความจงรักภักดีต่อผืนแผ่นดิน และสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เริ่มต้องแต่ต้นราชวงศ์จักรี ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทย จะทราบดีว่ากว่าจะมีวันนี้สำหรับแผ่นดินสยามนั้น ต้องสูญเสียบรรพชนในอดีตไปมากน้อยเพียงใด ถ้าจะเริ่มระยะสั้น ๆ ก็ตั้งแต่พระเจ้าตากสินมหาราช มาจนถึงรัชกาลที่ 9 แห่งจักรีวงศ์ ทุกพระองค์มีความเสียสละให้กับแผ่นดินและประชาชนชาวสยาม เพื่อให้ปวงชนชาวไทยสงบสุข พร้อมไปด้วยเครื่องอุปโภค บริโภค ปัจจัย 4 ในการดำเนินชีวิตพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่อสู้มาโดยตลอดในเรื่องของความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ คนไทยต้องสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ อีกทั้งมีความซื่อสัตย์ เพราะสถาบันเป็นศูนย์รวมจิตใจ ทำให้ประชาชนชาวไทยเป็นปึกแผ่น เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ถ้าผู้ใดมาก่อให้เกิดความแตกแยกทางความคิด และการกระทำผู้นั้นต้องได้รับผลกรรมอย่างแน่นอน นิราช ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว |