ความคืบหน้าเรือโดยสาร“เกาะล้าน-พัทยา” อับปางกลางทะเล ล่าสุดไม่พบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ด้านที่ปรึกษา สบ.10 พร้อมเปิดแถลงข่าวจับคนขับเรือ เจ้าตัวปฏิเสธลั่นไม่ได้ดื่มสุรา-เสพยา ส่วนสาเหตุคาดชนหินใต้น้ำ ซ้ำเครื่องปั๊มไม่ทำงานน้ำเลยทะลักเข้าเรือ

     กรณีอุบัติเหตุเรือโดยสารข้ามฟาก ระหว่างเกาะล้าน-เมืองพัทยา ขนาดใหญ่2ชั้น ชื่อ “เกาะล้านทราเวล 1” เกิดอับปางจมลงสู่กลางทะเล ห่างจากหาดนวลประมาณ 1 ไมค์ทะเล หลังเดินทางออกจากหาดแสม เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.ของวันที่3 พ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวมากกว่า 200 คนลอยคอในทะเลส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังระงม ทั้งหน่วยกู้ภัยและพลเมืองดีต่างพากันนำเรือเร็วออกไปรับมาขึ้นฝั่งที่ท่า เทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ กันจ้าละหวั่น แต่ภายหลังไม่อาจยื้อชีวิตได้ ทำให้เสียชีวิตรวม 6 ศพ มีผู้บาดเจ็บทั้งสาหัสและเล็กน้อยจำนวน 15 ราย ด้าน ผวจ.ชลบุรี ผู้บริหารเมืองพัทยา และผู้เกี่ยวข้อง รุดลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นคาดสาเหตุอาจจะมาจากเครื่องปั๊มสูบน้ำใต้ท้องเรือเกิดพัง เลยทำให้น้ำทะลักเข้าเรือจนอับปาง ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น
     ความคืบหน้าของอุบัติเหตุทางทะเลครั้งใหญ่สุดในเมืองพัทยา ผู้สื่อข่าวเปิดเผยเมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 4 พ.ย.56 น.ท.วิโรจน์ อินทร์สุข หน.สื่อสารและสงครามอิเลคทรอนิค กองสื่อสารทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมด้วย พ.ต.ท.นมัสการ นิลกำแหง สว.สรน.1 กก.5 กองบังคับการตำรวจน้ำ เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา นำนักประดาน้ำพร้อมเรือตรวจการ ต.81, ต.213 ของกองทัพเรือ เรือตรวจการ ต.626 ของตำรวจน้ำ และเรือสปีดโบ๊ตของหน่วยกู้ภัยรวมกว่า 10 ลำ เดินทางออกจากท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย มุ่งหน้าสู่เกาะล้าน เพื่อค้นหาพิกัดสถานที่จุดที่เรือจม โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง จึงพบว่าอยู่ห่างจากฝั่งหาดนวล แขวงเกาะล้าน ประมาณ 1.5 ไมค์ทะเล
     ต่อมานักประดาน้ำของทั้ง 3 หน่วยงาน ได้ดำน้ำลงไปดูสภาพเรือและตรวจสอบว่ามีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในซากเรือหรือไม่ โดยหลังจากงมค้นหาอยู่นาน2 ชั่วโมงปรากฏว่าไม่เจอร่างผู้เสียชีวิต พบมีเพียงทรัพย์สินของมีค่าของผู้ประสบเหตุ จึงนำขึ้นมาเพื่อรอให้เจ้าของมาติดต่อรับคืน ส่วนสภาพเรือพบว่าท้ายเรือจมฝังอยู่ทรายส่วนหัวเรือเชิดขึ้น บริเวณกราบซ้ายของเรือมีร่องรอยถูกชนจนแตกยาวประมาณ 2 ฟุต แต่เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถทำการกู้เรือขึ้นมาได้
     ส่วนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา สบ.10เดินทางมาประชุมรับฟังข้อมูลเหตุการณ์ระทึกขวัญสั่นสะเทือนการท่อง เที่ยวเมืองพัทยาจากผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ จากนั้นจึงคุมตัวนายสมาน ขวัญเมือง อายุ 48 ปี คนขับเรือมรณะ และนายจารึก งามแก้ว อายุ 45 ปี เจ้าของเรือ มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยนายสมาน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะขับเรือพานักท่องเที่ยวเดินทางจากเกาะล้านไปขึ้นฝั่งที่ เมืองพัทยา จู่ๆ เรือเกิดไปชนกับโขดหินจนกราบเรือด้านซ้ายแตก ประกอบกับเครื่องสูบน้ำเกิดชำรุดเลยทำให้น้ำทะเลทะลักเข้ามา นักท่องเที่ยวที่อยู่ชั้นล่างต่างพากันเฮโลวิ่งขึ้นไปชั้นบนด้วยความตกใจ ทำให้เรืออับปางลงอย่างรวดเร็ว และขอปฏิเสธว่าระหว่างขับเรือไม่ได้ดื่มสุราหรือเสพสารเสพติดแต่อย่างใด
     ด้าน นายจารึก งามแก้ว เจ้าของเรือ ให้การว่า เรือลำดังกล่าวจะเป็นเรือไฟเบอร์ ไม่ใช่เรือไม้ ปกติหากโดนคลื่นหรือน้ำทะเลซัดแรงเท่าไหร่ก็จะไม่แตกง่ายๆ เหตุการณ์นี้คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรือไปชนของแข็งอะไรบางอย่างจึงทำให้ ท้องเรือทะลุ จนทำให้เรืออับปางดังกล่าว
ต่อมา พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชั่วคราวที่ท่าเทียบ เรือแหลมบาลีฮาย เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ ก่อนไปตรวจสอบผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวว่ามีมาตรการรักษาความปลอดภัยดีพอ หรือไม่ ซึ่งภายหลังได้ออกมาเผยว่า เบื้องต้นได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยว ที่ประสบเหตุอย่างเต็มที่ และย้ำไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ในส่วนของคนขับเรือได้ดำเนินคดีอาญาโดยแจ้งข้อกล่าวหา กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ขณะที่ความผิดเกี่ยวกับการเดินเรือและคดีทางแพ่ง คงต้องให้กรมเจ้าท่าเป็นผู้ดำเนินการ

อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล /นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี081-3455203 /086-3684323