ลูกเรือประมง 7 คน ลอยคอในทะเลนานกว่า 7 ชม. จากพิษ พายุ “ไห่เยี่ยน” ซัดกระหน่ำจมอ่าวแสมสาร เจ้าของเรือเชื่อลูกเรือรอดจากการเซ่นไหว้ขอชีวิตจากหลวงพ่อดำและกรมหลวงชุมพรฯ กองทัพเรือส่งเรือหลวงเจ้าพระยาเข้าค้นหาเรือประมงอีก 1 ลำ อับปางในทะเล เบื้องต้นพบเพียงซากเรือจม แต่ไม่พบลูกเรือแต่อย่างใด

     สืบเนื่องจากได้เกิดพายุไต้ฝุ่น “ไห่เยี่ยน”(HAIYAN) ซึ่งมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ และกำลังจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ในช่วงวันที่ 10-11พ.ย.นี้ ส่งผลทำให้ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มีฝนตกในหลายพื้นที่ ในส่วนของพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้เกิดฝนตกตั้งแต่เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงช่วงบ่ายของวันนี้ (8 พ.ย.56)คลื่นลมในทะเลแรงเป็นเหตุให้เรือประมงต้องหยุดออกหาปลาและมาจอดหลบ คลื่นลมหลังเกาะแก่งต่างๆ ในพื้นที่สัตหีบ อ่าวแสมสาร อำเภอสัตหีบ เป็นจำนวนมาก มิหนำซ้ำยังมีเรือประมงอับปางจากคลื่นลมพายุอีกจำนวนหลายลำ
     และเมื่อเวลา 14.00 น.ของวันนี้ (8 พ.ย.56) เรือเอก บำรุง กลิ่นฟุ้ง หัวหน้าหน่วยกู้ชีพ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบว่า มีเรือประมงชื่อ โชคกฤษฎา เป็นเรือไดหมึกขนาด 12 วา มีลูกเรือและไต๋เรือ รวม 7 คน ได้อับปรางลงที่บริเวณ ด้านทิศตะวันตกของเกาะจวง อ่าวแสมสาร ห่างจากชายฝั่งสัตหีบประมาณ 7-8 ไมล์ทะเล ซึ่งขณะนี้ เรือประมงด้วยกันได้เข้าช่วยเหลือและกำลังนำลูกเรือทั้งหมดมาขึ้นฝั่งที่ ท่าเรือวราสินทร์ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ และยังมีเรือประมงที่ถูกคลื่นลมและพายุซัดจนอับปางในทะเลอีกหลายลำ จึงได้ประสานหน่วยกู้ชีพ รพ.อาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ และหน่วยกู้ชีพมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ มารับผู้ที่ประสบเหตุเรือจมในครั้ง นี้
     ในเบื้องต้นสามารถรับผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 7 ราย คือ นายทองขัน ตั้งวงศ์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/3 ม.4 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ ไต๋เรือ และนายธนพงษ์ ตั้งวงศ์ อายุ 18 ปี สัญชาติไทย พร้อมด้วย นายนา อายุ 24 ปี นาย จันทร์ อายุ 18ปี นายนะ อายุ 30 ปี นายนอย อายุ 22 ปี และนาย นี อายุ 28 ปี ลูกเรือสัญชาติกัมพูชา เข้ารักษาตัวที่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ในเบื้องต้นอาการปลอดภัย
     นายทองขัน ตั้งวงศ์ ไต๋เรือกล่าวว่า ได้นำเรือหลบหลังเกาะจวงหลังจากทราบว่าพายุเข้าตั้งแต่เมื่อเวลา 01.00 น. ของเมื่อคืน (8 พ.ย.56) แต่ทนกระแสพายุและคลื่นลมของไต้ฝุ่น “ไห่เยี่ยน”(HAIYAN) ไม่ไหวเรือจึงได้จมลงเมื่อเวลา 05.00 น. รุ่งเช้าของวันเดียวกัน โดยได้ตะโกนให้ลูกเรือทุกคนอยู่ใกล้กันและนำเชือกมาผูกเอวไว้ และให้ทุกคนเกาะประตูเรือ ถังน้ำ และอื่นๆ ที่พอหาได้พยุงตัวลอยคอเอาชีวิตรอดให้ได้ จนกระทั่งผ่านไปเป็นเวลา 6-7 ชั่วโมง จึงมีเรือประมงด้วยกันเข้ามาช่วยเหลือและนำขึ้นฝั่งส่งรักษาตัวที่ รพ.ได้อย่างปลอดภัย
     นางรัตนา บุญเนตร เจ้าของเรือเปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวทางวิทยุมดดำแจ้งว่าเรือประสบพายุคลื่นลมจมในทะเล จึงได้เข้าจุดธูปบนบานศาลกล่าวขอต่อหลวงพ่อดำให้ค้นหาลูกเรือที่ประสบเหตุพบ และให้ทุกคนปลอดภัยด้วยการบนด้วยไข่ไก่2,000 ฟอง พร้อมขอพรจากพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาทหารเรือ ขอให้ลูกเรือทุกคนปลอดภัยด้วยการบนประทัด 2,000 นัด ลูกปืน 9 นัด และจะบวชลูกชายถวายอีกด้วย หลังจากนั้นลูกเรือทุกคนพร้อมไต๋เรือรอดปลอดภัยได้อย่างปาฏิหาริย์ทุกคน
     ล่าสุดได้รับการเปิดเผยจาก นาวาเอก ชำนาญ พวงเพชร ผอ.กองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1 ว่า ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากวิทยุมดดำว่า มีเรือประมงจมอยู่ในทะเลอีก 1 ลำ ชื่อ เรือประมงรุ่งอรุณ 2 มีลูกเรือ 9นาย ที่บริเวณด้านทิศใต้ของเกาะจวง อ่าวแสมสารสัตหีบ ห่างจากเกาะจวง ประมาณ 20 ไมล์ทะเล โดย พลเรือโท วีระพันธ์ สุขก้อน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ ได้สั่งการให้เรือหลวงเจ้าพระยา พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ ทัพเรือภาคภาคที่ 1 เข้าทำการตรวจสอบเพื่อค้นหาแล้ว ในเบื้องต้นพบเพียงซากเรือที่จมอยู่ แต่ยังไม่พบลูกเรือประมงแต่อย่างใด

อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล/นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี081-3455203 /086-3684323