อภิสิทธิ์ เวชาชีวะ” เดินทางร่วมงานสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลกที่พัทยา ชี้การจัดงานประสพความสำเร็จหลังพบว่ามีข้อตกลงการลงทุนกว่า 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่กลุ่มหางแดงพัทยาประมาณ 200 คนยกขบวนขับไล่ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่แต่ไม่มีความวุ่นวาย 
(28 ก.ค. 52) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในการมอบของที่ระลึกแก่นายหลู จวิ้นชิง ประธานสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลก พร้อมกล่าวปาฐก ถาพิเศษในระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำในพิธีปิดการประชุมสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลก ที่โรงแรมดุสิตธานี พัทยา จ.ชล บุรี ซึ่งรัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพ หลังมีการประชุมร่วมกับภาคเอกชนของไทยเกี่ยวกับการลงทุนใน ช่วงระหว่างวันที่ 26-28 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่าสำหรับการประชุมดังกล่าวพบว่าเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการเสวนา โอกาสและลู่ทางการค้าการลงทุนในอนาคต เนื่องจากมีภาคเอกชนของจีนเข้าร่วมกว่า 300 คน และภาคเอกชนไทยกว่า 400 คน ซึ่งในส่วนของการเจราจาภาคธุรกิจนั้น พบว่าเกิดผลสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยจะเห็นได้จากมีความตกลงร่วมมือขั้นต้นระหว่างกันถึง 48 ความตกลง มูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลไทยจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และคอยสนับสนุนเพื่อให้เกิดความราบรื่นในการลงทุนสูงสุดแก่ทั้งสองฝ่าย นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาได้มีโอกาสเข้าร่วมการประชุมสมาชิกตระกูลแซ่ อาเซียน+4 มีโอกาสในการชื่นชมความสำเร็จด้านเศรษฐกิจการลงทุนของจีน ซึ่งพบว่ามีความเติบโตขึ้นมาก นอกจากนี้ยังได้พบปะกับนักธุรกิจจากเมืองกวางโจว ที่มีแนวคิดในการจัดตั้งตลาดสินค้าการเกษตรของไทยโดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้ผลิตผลทางการเกษตรของไทยมีตลาดขนาดใหญ่รองรับ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์อย่างสูงสุดในอนาคต สำหรับความร่วมมือร่วมในในวันนี้ สำหรับรัฐบาลไทย ถือเป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่สำคัญในการต้อนรับการลงทุนจากจีน และแสดงความพร้อมของนักธุรกิจไทย ในการต้อนรับและเปิดกว้างในการร่วมดำเนินธุรกิจระหว่างกันเพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย โดยยืนยันว่าทางรัฐ บาลไทยมีนโยบายต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศไทย และพยายามทุกวิถีทางในการกระตุ้นให้มากที่สุด โดยจะทำการจัดตั้งศูนย์ประสานการบริการนักลงทุน หรือ One Stop One Start Center เพื่อให้บริการแก่นักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ในปัจจุบันการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและจีน นับวันจะทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสินค้าประเทศจีนถือเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 3 ของไทย ขณะเดียวกันก็เป็นตลาดนำเข้าเป็นอันดับที่ 2 ของไทยด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนของการลง ทุนระหว่าง 2 ประเทศนั้นพบว่ายังไม่สูงมากนัก แต่ทางไทยเองก็ยังเล็งเห็นว่าโอกาสของการขยาย ตัวยังมีโอกาสสูง โดยเฉพาะกรลงทุนของจีนในประเทศไทย ที่อยู่ในระดับเพียง 3,000-4,000 ล้านบาท/ปี ซึ่งเชื่อว่าหากมีการศึกษาอย่างจริงจัง โอกาสในการลงทุนเพิ่มก็ยังเกิดขึ้นได้อีกเป็นจำนวนมาก ข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่คณะของนายกรัฐมนตรีได้เดินทางเข้ามายังโรงแรมสถานที่จัดกิจกรรมมีกลุ่มชมรมรักประชาธิปไตยพัทยาประมาณ 200 คนนำรถขยายแสเยงและป้ายผ้าโจมตีรัฐบาลนายอภิสิทธิ์มารอขับไล่นายกรัฐมนตรี โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากคอยซึ่งพบว่าไม่มีความวุ่นวายอะไรนัก เพราะกลุ่มเสื้อแดงดังกล่าวได้ยื่นหนังสือต่อตัวแทนนักธุรกิจจีนที่หวังให้การค้าการเจรจาบรรลุผล และยินดีให้การต้อนรับกลุ่มนักธุรกิจจากจีนแต่ไม่ต้อนรับคณะรัฐบาลชุดนี้เพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง  |