ชุดป้องกันปราบปราม สภ.ศรีราชา รวบโจรวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำทำมานับสิบครั้งเลือกเฉพาะคนที่นั่งอยู่บนรถสองแถว

     เมื่อเวลา 13.30 น. (1 ก.ย.57) พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ เรืองนวมดี สวป.สภ.ศรีราชา พร้อมชุดป้องกันปราบปรามนำกำลังออกตรวจพื้นที่ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ศรีราชา ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจพบเห็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อย คอทองคำพร้อมรถ จยย. รวมถึงสวมหมวกกันน็อคสีดำปิดใบหน้า ขี่รถวนเวียนอยู่ในตลาดสดศรีราชาคล้ายกับจะมาก่อเหตุอีก หลังจากที่ได้เคยก่อเหตุไปหลายครั้ง
     หลังทราบเหตุจึงแจ้งให้ศูนย์วิทยุกระจายข่าวแจ้งชุดป้องกันปราบปรามและเจ้า หน้าที่ตำรวจสายตรวจรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรให้สกัดตรวจสอบผู้ต้องสงสัย ตามที่รับแจ้งจนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าผู้ต้องสงสัยขี่รถเข้าไปในซอยที่จะ ไปออกด้านข้างธนาคารกสิกรไทยสาขาศรีราชา เขตเทศบาลเมืองศรีราชา ทางตำรวจจึงสกัดจับปิดหัวซอยท้ายซอยจนผู้ต้องสงสัยจนมุมกลางซอย ตรวจค้นใต้เบาะรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีน้ำตาล-ดำ หมายเลขทะเบียน 1กค-887 ชลบุรี พบป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน 1กข-7760 ชลบุรี ซุกซ่อนอยู่ และยังพบหมวกกันน็อคอีก 1 ใบ ห้อยอยู่ที่รถ ซึ่งชายคนดังกล่าวให้การว่าชื่อ นายอำนวย เกสรแพทย์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 1 ต.บางพระ อ.ศรีราชา มาขี่รถเล่นและกำลังจะกลับไปบ้านแฟนที่บางละมุง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากผู้ต้องสงสัยรูปร่าง และรถที่ใช้รวมถึงเสื้อคลุมและหมวกกันน็อคที่สวมใส่ กล้องวงจรปิดได้จับภาพไว้ได้หลังจากที่เคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ ในพื้นที่ศรีราชามาหลายครั้งแล้วและทางตำรวจกำลังติดตามตัวอยู่
     หลังจากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไปให้ พ.ต.ท.สุรชัย โพธิ์แก้ว สวป.สภ.ศรีราชา ทำหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษทำการสอบสวน ซึ่งคนร้ายก็ได้เปิดปากรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ ในพื้นที่ สภ.ศรีราชา และ สภ.แหลมฉบัง มาหลายสิบครั้งแล้ว โดยจะใช้รถคันที่ขี่มาก่อเหตุแล้วสับแผ่นป้ายทะเบียนที่พบใต้เบาะ รวมถึงเปลี่ยนหมวกกันน็อคและถอดเสื้อคลุมออก โดยจะเลือกก่อเหตุกับผู้ที่สวมใส่สร้อยคอแล้วนั่งอยู่บนรถสองแถวที่จอดข้าง ตลาดสดศรีราชา หน้าโรบินสันศรีราชา และหน้าตลาดบางพระ หน้าตลาดอ่าวอุดม และหน้าตลาดแหลมฉบัง โดยจะขี่รถ จยย. วนเวียนหาเหยื่อที่นั่งอยู่บนรถสองแถวเมื่อพบก็จะก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอ ทองคำและขี่รถ จยย. หลบหนีไป แล้วจอดรถสับเปลี่ยนทะเบียน เปลี่ยนหมวกกันน็อค ถอดเสื้อคลุมออก เพื่อกันเจ้าหน้าที่ตำรวจจำได้ ซึ่งไม่ได้ทำงานจะตระเวนก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำอย่างเดียว เงินที่ได้ก็จะนำไปเที่ยวเตร่ ซึ่งทางตำรวจจะได้สอบสวนขยายผลและหาแหล่งที่นำสร้อยคอทองคำไปขายต่อไป รวมถึงเรียกผู้เสียหายมาดูตัวคนร้ายและรถ จยย. ที่ใช้ก่อเหตุในครั้งนี้ เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป