จากกรณีสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ค เผยแพร่ข่าวสารว่ามีนักเรียนในพื้นที่สัตหีบกว่า 600 คน เกิดท้องเสียอย่างรุนแรงในขณะเล่นกีฬาสี ต้องนำส่ง รพ.อย่าเร่งด่วน เบื้องต้นพุ่งเป้าไปที่โรงผลิตน้ำแข็งน่าจะเป็นต้นเหตุ แต่มีการพบปลาตายจำนวนมากในบ่อน้ำดิบการประปาสัตหีบ รวมถึงการแพร่ระบาดของเชื้อโรคท้องร่วงในพื้นที่ ด้านสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งตรวจสอบ

     เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันนี้ (7 ก.ย.57) จากกรณี โซเชียลเน็ตเวิร์ค เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารจากสาธารณสุข(ไม่เปิดเผยนาม) ว่าผลการสอบสวน เมื่อวันที่ 2 ก.ย.57 พบผู้ป่วยทั้งหมด จำนวน 659 ราย เป็นนักเรียน จำนวน 458 ราย เป็นครู 18 ราย และประชาชนทั่วไป 183 ราย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จำนวน 610 ราย (เป็นผู้ป่วยในจำนวน 24 ราย) โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบจำนวน 35 ราย โรงพยาบาลสัตหีบ กม. 10 จำนวน 14 ราย จากโรงเรียนเลิศปัญญา จำนวน 44 คน นักเรียน 43 คน ครู 1 คน ( แข่งกีฬาสีเมื่อวันที่ 29 ส.ค.57) โรงเรียนธัมมะสิริศึกษา จำนวน 37 คน นักเรียน 37 คน ครู 3 คน (เมื่อ 29 ส.ค.57) โรงเรียนสิงห์สมุทร จำนวน 83 นักเรียน 80 คน ครู 3 คน โรงเรียนสัตหีบเขตฐานทัพเรือสัตหีบ จำนวน 163 คน นักเรียน 159 คน ครู 4 คน (กีฬาสีวันที่ 29 ส.ค.)โรงเรียนสัตหีบเขตกองเรือยุทธการ จำนวน 49 คน นักเรียน 47 คน ครู 2 คน โรงเรียนบ้านสัตหีบ จำนวน 52 คน นักเรียน 47 คน ครู 5 คน และโรงเรียนนาวิกโยธินบูรณ จำนวน 48 คน รวม 7 โรงเรียน ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนในโรงเรียนพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
     ซึ่งต่อมานายแพทย์ วุฒิไกร ศักดิ์สุรกานต์ สาธารสุขจังหวัดชลบุรี ได้มอบหมายให้ รองสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี พร้อมคณะฯ ร่วมกับสาธารณสุขอำเภอสัตหีบ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ และเทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ เข้าตรวจ สอบที่ โรงผลิตน้ำแข็ง บริษัท อ๊อด เคโอ สัตหีบ เลขที่ 80/27 ม.3 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และจากการตรวจสอบในเบื้องต้นไม่พบสารปนเปื้อนในน้ำแข็งและแหล่งน้ำดิบที่ ผลิตน้ำแข็ง อย่างไรก็ตามจะต้องรอผลการตรวจจากแลปอย่างเป็นทางการอีกครั้ง จึงจะสามารถระบุได้ว่าสาเหตุเกิดจากน้ำแข็งจากโรงงานผลิตน้ำแข็งนี้หรือไม่ ซึ่งในจำนวน 7 โรงเรียนนี้ รับน้ำแข็งจาก โรงผลิตน้ำแข็ง บริษัท อ๊อด เคโอ สัตหีบ จำนวน 3 แห่ง ประกอบกับมีการพบว่า ในบ่อน้ำดิบของการประปาสัตหีบ มีปลาตายอยู่ในบ่อน้ำดิบจำนวนมาก และยังพบถุงพลาสติกสีขาว สำหรับบรรจุสารส้มจำนวนหลายสิบถุง ใส่ปลาน้ำจืด ชนิดปลานิล ส่งกลิ่นเหม็นเน่า ไปทิ้งไว้ที่กองขยะ อบต.แสมสาร สัตหีบ ชลบุรี ซึ่งทราบว่าถุงพลาสติกนี้มีหน่วยงาน การประปาสัตหีบ ที่ใช้อยู่ในขณะนี้ แต่ใส่ปลาเน่ามาทิ้งไว้จำนวนมาก ไม่แน่ใจว่าเป็นสาเหตุจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรคหรือไม่ ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ ขณะนี้ได้เก็บหลักฐานทั้งปลา และถุงพลาสติกดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว
     เบื้องต้นสอบถามไปยัง นายเอนก เวชพันธ์ ผู้จัดการการประปาสัตหีบ ว่าขณะนี้หน่วยงานในพื้นที่สัตหีบได้รับการร้องเรียนว่าน้ำประปาที่ปล่อย จ่ายให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอสัตหีบใช้นั้น ขุ่นขาว มีกลิ่นเหม็นเน่า และกลิ่นคลอรีนรุนแรงมากนานนับเดือน อีกทั้งมีปลาน้ำจืดจำนวนมากตายลอยเน่าอยู่ในอ่างเก็บน้ำดิบจริงหรือไม่ ซึ่ง นายเอนก กล่าวว่า จากกรณีที่มีปลาตายนั้นมีจริง แต่มีจำนวนเพียงเล็กน้อยเพราะอาจขาดออกซิเจน แต่ขอยืนยันว่าขั้นตอนการผลิตน้ำประปาสะอาดแน่นอน
     นายอภิชัย อมรศักดิ์ชัย ผจก.บริษัทอ๊อดเคโอ ผลิตน้ำแข็ง เปิดเผยว่า ขั้นต้นเราจะดูดน้ำดิบขึ้นมาแล้วก็ผ่านคลอรีน ในระบบอัตโนมัติลงสู่ถังเก็บพักไว้เพื่อให้คลอรีนกำจัดเชื้อเมื่อครบกำหนดก็ จะส่งผ่านเครื่องกรองทรายเพื่อกำจัดสารแขวนลอยในน้ำออกให้หมดเพื่อให้น้ำใส จากนั้นเราก็จะพักไว้แล้วผ่านเครื่องกรองตามระบบ คาร์บอน เรซิ่น แมงกานีส ซึ่งน้ำที่ออกมาก็จะใช้เป็นน้ำที่ทำน้ำแข็งระหว่างที่ผลิตน้ำแข็งช่วงที่ เครื่องเปิดทำงานน้ำจะถูกส่งมาทางเครื่องแสงยูวีเข้าเครื่องทำน้ำแข็ง น้ำแข็งที่ออกมาก็เป็นน้ำแข็งที่บริโภคได้ซึ่งผมมั่นใจว่าเป็นน้ำแข็งที่ สะอาด หลังจากสอบถามไปก็พบว่าบางโรงเรียนที่เราไม่ได้ส่งน้ำแข็งก็เป็นด้วย ซึ่งอาจจะมีสารปนเปื้อนอย่างอื่นด้วยที่ไม่ได้มาจากนำแข็งซึ้งตอนนี้ทาง สาธารณสุขกับกรมอนามัยกำลังทำการตรวจสอบหาสาเหตุอยู่ ทางสาธารณสุขได้ให้เราหยุดการดำเนินการชั่วคราวก่อน
     นายกิตติ ดวงรัตนเนตร สาณารสุขอำเภอสัตหีบ เปิดเผยว่า คือตอนนี้กำลังรอผลจากห้องแลปที่เราส่งไปตรวจอยู่ซึ่งผลตรวจทางวิทยาศาสตร์ ยังไม่ออกมา ที่มาวันนี้เราก็มาตรวจสอบว่าอาจจะเกิดการปนเปื้อนระหว่างการขนส่งเราจึงมา ทำความสะอาดรถขนส่งโดยการช็อกคลอรีน คือเอาคลอรีนผสมน้ำให้มีความเข้มข้นสูงมาฆ่าเชื้อภายในรถที่ใช้ขนส่งเพราะ เราไม่แน่ใจว่ามันปนเปื้อนจากส่วนไหนเราต้องตรวจสอบทั้งหมดที่เราสงสัย ตอนนี้ที่เราไปทำการตรวจสอบแล้วประมาณ 8-9โรงเรียนมีข้องสงสัยที่เหมือนกันคือใช้น้ำแข็งจากแหล่งเดียวกัน เราจึงมาที่โรงงานนี้เพราะว่ารับน้ำแข็งมาจากที่นี่จึงนำน้ำดิบ น้ำแข็ง ส่งทางศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขซึ้งขณะนี้ผลยังไม่ออก ซึ่งเวลาที่ผลตรวจจะออกอย่างช้าไม่เกิน 45 วัน แต่เราก็ยังไม่ยืนยันว่าสาเหตุเกิดจากน้ำแข็งของโรงงานนี้ต้องผลตรวจจาก ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเป็นทางการอีกทีถึงจะตอบ ได้ว่าปนเปื้อนจากน้ำจากน้ำแข็งของโรงงานนี้จริงไหม
     นายประสิทธิ์ เหลืองทอง ผอ.รร.สิงห์สมุทร เปิดเผยว่า มีนักเรียนป่วยประมาณ 60-70 คน เป็นในช่วงเสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมา ระบุไม่ได้ว่ามาจากสาเหตุอะไร เพราะเด็กแต่ละคนมีที่อยู่ต่างกัน มารู้อีกครั้งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และจากการสอบถามโรงเรียนและชุมชนใกล้เคียง ก็พบว่าเด็กมีอาการท้องร่วงเช่นเดียวกัน ต่อมาทางสาธารณสุข รพ.อาภากรฯ และ ร.พ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ได้ลงมาตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุ ในปัจจุบัน ทาง รพ .ก็ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่มาของโรคท้องร่วงที่แน่นอนได้ว่าเกิดจากสาเหตุ อะไร ต้องรอผลการพิสูจน์จากหลายหน่วยงาน และตามที่มีคนแชร์ข้อความทางโซเชียลเนตเวิร์คในอินเตอร์เน็ตระบุว่า เป็นโรงผลิตน้ำแข็งแห่งหนึ่งในพื้นที่สัตหีบ ซึ่งต้องรอผลพิสูจน์ ที่แน่นอน ในส่วนของโรงเรียนได้กำชับแม่ค้าเป็นหลัก อาหารต้องร้อน ที่ลวกช้อนต้องร้อน อาหารต้องสะอาด เพื่อป้องกันไว้ก่อนตอนนี้อาการต่างๆ ก็ดีขึ้นแล้ว
     นางณัฐกานต์ ตั้นไทย ครูโรงเรียนสิ่งห์สมุทร กล่าวว่า มีลูกชาย 2 คน คนโต อายุ 18 ปี เรียนอยู่ ม.6 รร.สิงห์สมุทร คนเล็ก ม.2 อยู่ รร สิงห์สมุทร เหมือนกัน อาการของเขาในวันเกิดเหตุ (2 ก.ย.57) ได้ไปเรียนพิเศษโดยทานข้าวกลางวันกับหมูกระเทียมพริกไทย และในช่วงเย็นได้กินไก่ย่างยี่ห้อหนึ่ง และต่อมาได้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง จนต้องนำส่ง รพ.สิริกิติ์ฯ และพบว่าที่ รพ.ฯ มีคนอาการท้องเสียจำนวนมากเช่นเดียวกัน ส่วนสาเหตุทีแท้จริงคงต้องรอผลการชันสูตรว่าเกิดจากเชื้ออะไรกันแน่และได้ รับเชื้อนี้มาจากที่ใด

อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล/นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี081-3455203 /086-3684323