ปลัดเทศบาลนครแหลมฉบัง ชี้แจง ตลาด ประเภท 2 |
|
เทศบาลนครแหลมฉบัง จัดประชุมผู้ประกอบการตลาดนัดหัวสนามบิน เครือสหพัฒน์ เพื่อแก้ไขปัญหาการเปิดตลาด และปัญหาการจราจรติดขัด
ที่ห้องประชุมเมืองใหม่ 1 ชั้น 4 สำนักงานเทศบาลนครแหลมฉบัง นายภูษิต แจ่มศรี ปลัดเทศบาลนครแหลมฉบัง พร้อมด้วย เจ้าหน้าสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครแหลมฉบัง ได้เรียกประชุมผู้ประกอบการตลาดนัด บริเวณหัวสนามบิน เครือสหพัฒน์ ตำบลบึง อำเภอศรีราชา เพื่อแก้ไขปัญหาการเปิดตลาด และปัญหาการจราจรติดขัด ร่วมประชุมชี้แจงข้อกำหนดในการแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ โดยได้ชี้แจ้งว่า สำหรับหลักเกณฑ์เงื่อนไข ของการจัดตั้งตลาดนัด ภายในเขตเทศบาลนครแหลมฉบัง จะมีอยู่ 2 ประเภท ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวง พ.ศ.2551 เพื่อให้ผู้ประกอบการตลาดเกิดความตื่นตัวที่จะพัฒนาตลาดสดให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตลาดสด น่าซื้อ ซึ่งขณะนี้มีตลาดประเภทที่ 1คือ ตลาดที่มีโครงสร้างอาคาร ซึ่งภายในเขตเทศบาลนครแหลมฉบัง ไม่พบปัญหาแต่ เพราะเนื่องตลาดนัดภายในเขตเทศบาลนครแหลมฉบัง มีการรักษาสภาพตลาดให้สะอาด ถูกสุขลักษณะ นายภูษิต กล่าวต่อไปว่า สำหรับตลาดที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นตลาดประเภทที่ 2 ที่ต้องมีการแก้ไขและพัฒนาปรับปรุงให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์และถูกสุขลักษณะ ตามกฎกระทรวงว่าด้วยสุขลักษณะตลาด พ.ศ. 2551 ตั้งแต่ 1) การจัดวางสินค้าในตลาดต้องจัดให้เป็นสัดส่วน ไม่ปะปน เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาดและป้องกันการปนเปื้อนในอาหาร 2) จัดให้มีการป้องกันไม่ให้น้ำหรือของเหลวไหลจากแผงจำหน่ายอาหารประเภทเนื้อสัตว์ชำแหละลงสู่พื้นตลาด3) ห้ามล้างภาชนะและอุปกรณ์จำหน่ายอาหาร ณ บริเวณแผงจำหน่าย ควรนำไปล้างยังจุดที่ผู้ประกอบการตลาดจัดเตรียมไว้ และ 4)ผู้ขายของและผู้ช่วยขายของต้องปฏิบัติให้ถูกสุขลักษณะในการจำหน่าย ทำ ประกอบ ปรุง เก็บ หรือสะสมอาหาร และต้องมีสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี และที่สำหรับอย่างยิ่งตลาดประเภทที่2 จะต้องมีจำนวนส้วมและที่ถ่ายปัสสาวะ คือ จะต้องมีส้วมไม่น้อยกว่า 6ที่ต่อจำนวนแผงไม่เกิน 40 แผง โดยแยกเป็นส้วมชาย 2 ที่ ส้วมหญิง 4 ที่ และให้เพิ่มทั้งส้วมชายและหญิงอีก 1 ที่ และ 2 ที่ ตามลำดับต่อจำนวนแผงที่เพิ่มขึ้นทุก 25แผง และในส่วนของระบบจราจร ต้องจัดให้มีพื้นที่จอดรถให้เพียงพอ สัดส่วน 1-1 อาทิเช่น พื้นที่ตลาด 2 ไร่ แบ่งเป็นจัดตลาด 1 ไร่ เป็นที่จอดรถ 1 ไร่ และที่สำหรับต้องมีคนคอยจัดรถและโบกให้รถเข้าไปจอดในพื้นที่ ที่จัดไว้ และห้ามจอดรถบริหารข้างถนน หรือในที่สาธารณะ ทั้งนี้ สำหรับผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งตลาดทุกแห่ง ต้องจัดทำแผนการพัฒนาปรับปรุงตลาดให้เป็นไปตามกฎกระทรวงกำหนด เสนอเจ้าพนักงานท้องถิ่นภายใน 150 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งหนังสือ เพราะการปฏิบัติตามกฎกระทรวงว่าด้วยสุขลักษณะของตลาด พ.ศ.2551 ถือเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการที่ต้องให้ความสำคัญในการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่พ่อค้าแม่ค้า ให้เกิดความตระหนักและร่วมมือกันปฏิบัติตามข้อแนะนำด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นแหล่งแพร่กระจายโรคของชุมชน เป็นการสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค นายวิชาญกล่าวในตอนท้าย |