พลเมืองดีขับกระบะเข้าไปจอดใต้ร่มไม้ กลับเจอรถ จยย.รุ่นยอดฮิตล้มคว่ำอยู่ในป่า รีบแจ้งตำรวจให้รีบมาตรวจสอบ หลังการตรวจสอบพบเป็นรถที่ถูกขโมยมาจอดทิ้งไว้ในป่า

     วันที่ 28 มีนาคม 2558 เวลา 14.00 น. เจ้าตำรวจ สภ.แสนสุขรับแจ้งว่าพบเจอรถ จยย.ต้องสงสัยจอดทิ้งไว้ในป่า บริเวณข้างร้านปอนรับซื้อของเก่า เลขที่71/11 ถนนไทยพิพัฒ ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้ง พ.ต.ท. จิรโรจน์ โรจน์ภานุพัชร์ รอง ผกก.ป.สภ.แสนสุข พร้อมสายตรววจ รีบไปตรวจสอบ
     ที่เกิดเหตุพบนายสายธาร พิมพ์จันทร์ อายุ 22 ปี เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่าตนขับรถไปจอดหลบแดดที่ใต้ต้นไม้ ออกจากรถก็เจอรถ จยย.คันดังกล่าวล้มคว่ำอยู่จึงรีบโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ จากการตรวจสอบ พบรถ จยย.ยี่ห้อ คาวาซากิ รุ่น เคเอสอา สีดำ ล้มคว่ำอยู่ในป่า ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน เพราะมีร่องรอยการทำรายตรงที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจนหักออก ส่วนตัวถังรถอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เจ้าหน้าที่พยายามลองพยาสตาร์ทรถแต่ไม่ติด
     พ.ต.ท.จิรโรจน์ โรจน์ภานุพัชร์ รอง ผกก.ป.สภ.แสนสุข จึงสั่งการให้เข้าเช็คในฐานขอมูลว่าเป็นรถที่ถูกแจ้งหายไว้หรือไม่ โดยสามารถเช็คผ่านโทรศัพท์มือถือได้เลย จากการตรวจสอบเลขตัวถังรถจึงทราบว่าเป็นรถที่ถูกขโมยมา เมื่อ 2 วันที่แล้ว ในเขตพื้นที่ สภ.แสนสุข เจ้าหน้าที่จึงนำรถไปเก็บรักษาที่ สภ.แสนสุข และติดตามเจ้าของรถมาตรวจสอบดูรถต่อไป
     เนื่องจากเขตพื้นที่จังหวัดชลบุรีมียอดสถิติรถ จยย.หายมากที่สุดในประเทศ ท่าน พ.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผบก.ภ.จว.ชลบุรี จึงมีนโยบายแข็มในการตรวจสอบรถจยย.รวมถึงมีนโยบายให้จัดทำฐานข้อมูลรถหาย โดยจะมีข้อมูลและรายละเอียดรถหายทั้งหมดทั้งจังหวัดชลบุรี และสามารถเปิดดูได้จากโทรศัพท์มือถือ จึงทำงานง่ายและรวดเร็วในการเช็ครถว่าเป็นคันเดียวกันกับที่แจ้งหายไว้หรือไม่  จึงทำให้ยอดรถหายลดลงถึง 50% โดยพ.ต.ท.จิรโรจน์ โรจภานุพัชร์ รอง ผกก.ป.สภ.แสนสุข กล่าวว่าที่มียอดรถหายเกิดจาก 3 ข้อหลักๆคือ 1แจ้งความเท็จว่ารถหาย 2 เกิดจากมือสมัครเล่นเช่นเด็กแว้นและวัยรุ่นที่คึกคะนอง(พอถูกแข็มงวดกวดขันก็ไม่กล้าลงมือก่อเหตุอีก) 3 คือมืออาชีพที่มีประสบการณ์หรือมีใบสั่งให้ขโมย พอเจอการเข้มงวดกวดขันและนโยบายฐานข้อมูลที่ตรวจเช็คได้รวดเร็วทำให้ตำรวจทำงานได้รวดเร็วจึงทำให้ยอดรถหายลดน้อยลง