สาวไทยเจ้าของร้านนวดพาสามีชาวเกาหลีแจ้งความ หลังมีมาเฟียแดนกิมจิพานายทหารยศพันตรีมาข่มขู่ให้จ่ายเงิน 5 แสน

     เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 6 เม.ย.58น.ส.สิริยุพา ทองดี อายุ 27 ปี เจ้าของร้านเวิล์ดมาสซาตนวดแผนไทย พร้อมนายจุง วู คิม อายุ 36 ปี สามีชาวเกาหลี พร้อมภาพวงจรปิดภายในร้านเข้าแจ้งความร้อนทุกข์กับ ร.ต.ท.นครราช นนสีลาด ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา พร้อมกับให้การว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่4 เม.ย. ได้มีชาวเกาหลี 2 คน พร้อมชายฉกรรจ์ซึ่งอ้างตัวเป็นเสนาธิการทหาร พร้อมบอดี้การ์ด 2 คน และอ้างเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบอีกหนึ่งคน บุกเข้ามาในร้านเวิล์ดมาสซาตนวดแผนไทย ก่อนข่มขูบังคับให้จ่ายเงินจำนวน500,000 บาทให้กับชาวเกาหลี ซึ่งตนเองและสามีไม่รู้เรื่องเงินดังกล่าว
     นางสาวสิริยุพายังกล่าวต่ออีกว่า ส่วนเรื่องเงินนั้นเป็นเงินที่ก่อนหน้าสามีตนและชาวเกาหลีรวมทั้งหมด 4 คน ว่าจะไปเปิดผับในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งตนเองและสามี พร้อมด้วยนายชางเกาหลีอีกคน รวมทั้งชาวเกาหลีที่มากับกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็นเสนาธิการทหาร ได้เดินทางไปดูสถานทีที่จะเปิดผับ หลังจากนั้นก็หายเงียบไปโดยตนเองและสามีไม่คิดว่าไม่มีการเปิดผับแล้ว จู่ๆเมื่อช่วงเย็น( 4 เม.ย.58 )ชาวเกาหลีทั้ง 2 คน ได้พากลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างว่าเป็นเสนาธิการทหารพร้อมพวกมาข่มขูให้รับผิด ชอบเงินจำนวน500,000 บาท โดยบอกว่านายชาง เกาหลีอีกคนเอาเงินไป โดยบอกว่าสามีตนเองรู้จักนายชาง ซึ่งตนเองบอกว่าไม่เจอนายชางมาตั้งนานและติดต่อไม่ได้ ชาวเกาหลีและกลุ่มชายฉกรรจ์ไม่เชื่อ และบอกว่าจะมาหาอีกในวันพรุ่งนี้ ตนจึงปรึกษาพี่ชายที่เป็น สห.ที่กรุงเทพก่อนเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์
     ซึ่งในขณะเข้าแจ้งความร้องทุกข์กลุ่มชายฉกรรจ์ได้โทรศัพท์มาบอกว่าให้ออกมา เจอที่ร้านกาแฟชั้นที่1 ห้างบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า ถนนพัทยากลาง ทางร.ต.ท.นครราช นนสีลาด ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยารับทราบ ก่อนสั่งการให้ผู้เสียหายเดินทางไปพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจเพื่อไปควบคุมตัว มายัง สภ.เมืองพัทยา ซึ่งทางผู้เสียหายได้เดินทางไปยังร้านกาแฟและพบกับกลุ่มชายฉกรรจ์ ซึ่งในตอนแรกกลุ่มชายฉกรรจ์ไม่ยอมเดินทางยัง สภ.เมืองพัทยา และยังบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “ผมใหญ่กว่าผู้การคุณอีก” ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 30 นาที กลุ่มชายฉกรรจ์จึงเดินทางมายัง สภ.เมืองพัทยา
     ซึ่งเมื่อมาถึง สภ.เมืองพัทยา ชายฉกรรจ์ที่อ้างเป็นเสนาธิการทหารได้แสดงบัตรให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู ระบุชื่อยศ พันตรีประวีร์ จินดาวรรณ สังกัด กองทัพบก ส่วนคนติดตาม จ่าสิบเอกมภพ กำลังเอก สังกัด กองทัพบก ส่วนอีกคนชื่อนายเฉลิมยุทธ ทองมาก อายุ 45 ปี ส่วนชาวเกาหลีทั้ง 2 คน อ้างว่าพาสปอร์ตอยู่กับคนขับรถและก่อนมา สภ.เมืองพัทยา เกิดอาการกลัวเลยติดต่อไม่ได้ ซึ่งในระหว่างการสอบถามกับ ร.ต.ท.นครราช ร้อยเวรสอบสวน พันตรีประวีร์ จินดาวรรณ ได้โทรศัพท์ไปหา พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา แต่ไม่ทราบว่าคุยเรื่องอะไร ก่อนจะบอกชื่อร้อยเวรสอบสวนกับทาง ผกก.สภ.เมืองพัทยา
     ในเบื้องต้นทางนางสาวสิริยุพา ทองดี และนายจุง วู คิม สามีชาวเกาหลี ไม่อยากมีปัญหากับกลุ่มพันตรีประวีร์ จึงแค่อยากไม่ให้ทั้งหมดมาก่อกวนอีก ทาง ร.ต.ท.นครราช นนสีลาด ร้อยเวรสอบสวน จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยทางพันตรีประวีร์ก็รับปากว่าจะไม่มาก่อกวน โดยจะกลับไปแจ้งความที่ กทม. และติดตามหานายชางที่เป็นคนเอาเงินไป.

อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล/นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี081-3455203 /086-3684323