2 คนร้ายสวมหมวกกันน๊อคเต็มใบอำพรางใบหน้าใช้ปืนจี้พนักงานร้านสะดวกซื้อหวังเอาเงินสดแต่ได้ไปเพียงสุราไทยและโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ก่อนหลบหนีไป

     เมื่อเวลา 04.00 น. ( 21 พ.ค. 2558 )พ.ต.ท.สุทิน นิลแย้ม สารวัตรเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรศรีราชา รับแจ้งจากสายตรวจตู้ยามนาพร้าว ว่ามีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุจี้พนักงานร้านบิ๊กซีนาพร้าวและได้ทรัพย์สินไปด้วย จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมชุดสืบสวนศรีราชาแล้วรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นร้านบิ๊กซีสาขานาพร้าวเลขที่88/3 หมู่ 7 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา ซึ่งตั้งอยู่ติดริมถนนสายไร่กล้วย-นาพร้าว พบนายอมรเทพ ชังพูลสวัสดิ์ อายุ 20 ปี และนายเกียรติสกล พุ่มเมือง อายุ 25 ปี พนักงานภายในร้านสะดวกซื้อซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจ โดยแจ้งว่าที่ผู้ก่อเหตุเป็นวัยรุ่น2 คนสวมหมวกกันน๊อคเต็มใบอำพรางใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้บังคับให้เปิดลิ้นชักเงินสดแต่เปิดไม่ได้จึงได้ไปเพียงสุรา ไทยและโทรศัพท์มือถือ2 เครื่องก่อนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
     ซึ่งทางตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของทางร้านพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นวัย รุ่น2 คน ได้นำรถจักรยานยนต์ไปจอดด้านข้างของร้านฝั่งตลาดนัดแล้วเดินเข้ามาโดยราย แรกรูปร่างผอมสูงประมาณ165ซม.สวมหมวกกันน๊อกสีขาวแบบเต็มใบปิดบังใบหน้าใส่ เสื้อคลุมแขนยาวสีส้มขาวกางเกงยีนส์เด๊บขายาวรองเท้าแตะ อีกคนสูงประมาณ 165 ซม.เช่นกัน สวมหมวกกันน๊อกแบบเต็มใบสีขาวใช้ผ้าปิดปากปิดจมูกสวมถุงมือสีขาวเสื้อยืดสี ขาวคลุมด้วยเสื้อแขนยาวสีดำกางเกงเด๊บขายาวรองเท้าผ้าใบแบบหุ้มส้น เดินตามเข้ามาแล้วพากันเดินเข้าไปหานายอมรเทพพนักงานที่กำลังยืนจัดของอยู่ ที่ชั้นวางของภายในร้านเพียงคนเดียวส่วนพนักงานอีกคนได้ไปเข้าห้องน้ำมา โดยใช้อาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ออกมาจี้บังคับให้พนักงานเดินมาที่หน้า เค๊าเตอร์เพื่อให้เปิดลิ้นชักเพื่อจะเอาเงินภายในลิ้นชักแต่นายอมรได้พูดว่า เปิดไม่ได้ทำให้คนร้ายที่ใส่เสื้อสีส้มที่ถือปืนพยายามเอาปืนจี้บังคับขู่ ให้เปิดลิ้นชักเมื่อคนร้ายเห็นท่าว่าเปิดไม่ได้แน่จึงหยิบเอาสุราไทยไป จำนวน1 ขวด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง แล้วรีบพากันออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านข้างฝั่งตลาดนัดออกไป อย่างรวดเร็ว
     ด้านนาย อมรเทพ พนักงานที่ถูกก่อเหตุ เล่าว่า ตนเองกำลังยืนจัดของอยู่ที่ชั้นวางของเพียงคนเดียวส่วนเพื่อนที่ทำด้วยกันไป เข้าห้องน้ำก็มีคนร้ายเป็นวัยรุ่นเดินตามกันเข้ามา2 คน แล้วเดินเข้ามาใช้ปืนจี้บังคับให้เดินมาที่เค๊าเตอร์เพื่อให้เปิดลิ้นชักเอา เงินสดจึงตัดสินใจบอกไปว่าเปิดไม่ได้ถ้าจะเปิดต้องรออีกคนที่กำลังเข้าห้อง น้ำอยู่ทำให้คนร้ายเสื้อคลุมสีส้มเกิดอาการโมโหพยายามเอาปืนออกมาจ่อขู่ เหมือนจะยิงแต่ตนยืนยันว่าเปิดไม่ได้คนร้ายจึงได้รีบคว้าเอาของไปแทนก่อนที่ จะพากันหลบหนีไปซึ่งในเบื้องต้นทางตำรวจทราบว่าร้านดังกล่าวได้ถูกก่อเหตุ แบบนี้มาครั้งนี้เป็นครั้งที่4 แล้ว จึงคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นวัยรุ่นในพื้นที่ละแวกใกล้เคียงจึงได้รู้ช่วง เวลาที่ปลอดคนช่วงไหน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ทำการสืบสวนกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่และละแวก ใกล้เคียงรวมถึงติดตามจากกล้องวงจรปิดตามรายทางเพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวน ติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป