รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารประสานตำรวจรวบกลุ่มชาย-หญิงแต่งกายชุดดำอ้างเป็นทหารในสังกัดชมรมทหารพรานค่ายปักธงชัย มารับงานรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวในเมืองพัทยา

     เมื่อช่วงกลางดึก วันที่ 7 มิ.ย.58 พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้รับการประสานจาก พล.ต.กิตติเทพ เจียรสุมัย รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไท และประธานที่ปรึกษาชมรมทหารพรานค่ายปักธงชัย กรุงเทพมหานคร ว่าให้ตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวเป็นทหารพรานในชมรม มารับงานรักษาความปลอดภัยให้กับกรุ๊ปนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่มาประชุมสัมมนาในโรงแรมรอยัลคลิฟบีชรีสอร์ทพัทยา โดยไม่รับการอนุญาตจากต้นสังกัด หลังได้รับการประสานจึงสั่งการให้ พ.ต.ท.โกวิทย์ สวัสดิมงคล สวป. กับ ร.ต.อ.วิษณุ ไชยสุวรรณ รอง สวป.นำกำลังตำรวจสายตรวจเดินทางไปตรวจสอบ
     เมื่อไปถึงบริเวณหน้าโรงแรมดังกล่าวพบรถปิกอัพ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน 3กส-273 กทม. มีชายฉกรรจ์แต่งกายชุดดำนั่งอยู่เต็มท้ายกระบะ กำลังขับออกมาจากโรงแรมอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถไล่ติดตามไป จนสามารถสกัดจับไว้ได้ที่ปากซอย 1 ถนนพระตำหนัก ใกล้เคียงสถานีตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ทราบชื่อคนขับคือ นายประวิทย์ บุญปก อายุ 45 ปี ค้นในตัวพบบัตรประจำตัวชุดปฏิบัติการพิเศษนักรบดำค่ายปักธงชัย ระบุตำแหน่งหัวหน้าชุด 8 และบัตรประจำตัวสมาชิกชมรมทหารพรานค่ายปักธงชัย กรุงเทพมหานคร
     ในระหว่างตำรวจกำลังตรวจสอบรถคันแรกอยู่นั้น ได้มีรถปิกอัพ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรตัน สีดำ ทะเบียน ญข-1682 ด้านกระจกหลังรถติดสติ๊กเกอร์ คำว่า"หนังสือพิมพ์ทำเนียบโพส” และมีชื่อ พล.ท.ปรเมษฐ์ ป้อมนาค อยู่ด้านล่าง และรถตู้ ยี่ห้อฮุนได สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ก-8286 กทม.ทั้งกระจกหน้าและกระจกท้าย ติดสติ๊กเกอร์คำว่า "ข่าว 5 เหล่าทัพ"ขับมาจอดตรงที่เจ้าหน้าตรวจสอบ จากนั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์แต่งกายชุดดำจำนวนหลายคนเดินลงมา หนึ่งในนั้นคือนายธวัชชัย จันโสดา อายุ 46 ปี ได้มาแสดงตัวว่าเป็นหัวหน้ากลุ่ม พร้อมกับโชว์บัตรประจำตัวสมาชิกอาสาช่วยรบทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และพยายามจะพูดคุยไกล่เกลี่ยทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่จากการตรวจสอบพบว่าบัตรของนายธวัชชัย หมดอายุตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.57 แล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวทั้งหมดรวม 16 คน แบ่งเป็นชาย 13 คน หญิง 3คน ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองพัทยา ซึ่งบางคนพบว่ามีบัตรประจำตัวทหารผ่านศึก และทหารช่วยรบของค่ายสุรนารี และค่ายปักธงชัย จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
     โดยนายธวัชชัย ให้การยอมรับว่า อดีตตนเคยเป็นทหารพราน แต่ปัจจุบันไม่ได้รับราชการแล้ว ก่อนหน้านี้ได้รับการประสานจากทีมงาน บริษัท โฟร์.เอฟ.แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัททัวร์นำเที่ยวที่มี พล.ท.ปรเมษฐ์ ป้อมนา อดีตนายทหารนอกราชการ เป็นประธานที่ปรึกษา พร้อมกับให้จัดหาทีมงานมาดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักธุรกิจและตัวแทน บริษัททัวร์ท่องเที่ยว ทั้งในประเทศจีน มาเลเซีย และอีกหลายประเทศในทวีปเอเชีย จำนวน 6,500 คน ที่เดินทางมาร่วมงานเปิดตัว บริษัท โฟร์.เอฟ.แคปปิตอล จำกัด อย่างเป็นทางการ ณ โรงแรมรอยัล คลิฟบีช รีสอร์ท พัทยา ซึ่ง พล.ท.ปรเมษฐ์ ก็เดินทางมาร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย ตนจึงไปรวบรวมสมัครพรรคพวกทั้งอดีตทหารพราน และพลเรือน รวมแล้ว 10 กว่าคน เพื่อมารับงานนี้ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการจึงพากันเดินทางกลับกรุงเทพ แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สกัดจับโดยไม่ทราบสาเหตุดังกล่าว
     ต่อมาตำรวจได้ประสานไปยัง ร.ท.วินัย ด้วงทอง นายทหารจากมณฑลทหารบกที่14 จ.ชลบุรี ในฐานะรองหัวหน้าชุดปฏิบัติการพื้นที่ อ.บางละมุง ให้นำกำลังมาตรวจสอบกลุ่มที่อ้างตัวเป็นทหารพรานดังกล่าว ผลปรากฏว่าในจำนวนนี้ไม่มีผู้ใดรับราชการเป็นทหารพรานแต่อย่างใด เบื้องต้นจึงได้ดำเนินคดีกับ นายพรเทพ อาสา อายุ 28 ปี นายประวิทย์ บุญปก อายุ 45ปี นายสัมพันธ์ พลหมอ อายุ 30 ปี และ นายศุภกร ประวิง อายุ 40 ปี ในข้อหาแต่งกายเลียนแบบข้าราชการทหาร ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ส่วนคนอื่นๆ ได้ว่ากล่าวตักเตือนก่อนปล่อยตัวไป
     ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามข้อเท็จจริงไปยัง พล.ต.กิตติเทพ เจียรสุมัย รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร และประธานที่ปรึกษาชมรมทหารพรานค่ายปักธงชัย กรุงเทพมหานคร ได้รับการเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทราบข่าวจะมีกลุ่มสมาชิกบางคนในชมรม เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมการจัดงานของบริษัท โฟร์.เอฟ.แคปปิตอล จำกัด จึงได้เรียกประชุมคณะกรรมการ พร้อมกับสั่งการว่า ห้ามสมาชิกเข้าไปเกี่ยวข้องกับงานไม่ว่าจะกรณีใดๆ กระทั่งวันนี้ (7 มิ.ย.58) มีสายรายงานมาว่า พบกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวเป็นสมาชิกในชมรม ไปรับจ้างดูแลความปลอดภัยในงานดังกล่าว เลยประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ไปตรวจสอบ และขอยืนยันว่ากลุ่มบุคคลที่ถูกควบคุมตัวนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชมรมทหารพรานค่ายปักธงชัย กรุงเทพมหานคร แต่อย่างใด จึงขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะทำให้หน่วยงานและกองทัพได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก.

อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล/นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี081-3455203 /086-3684323