รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่เยี่ยมเกษตรกร หวังพัฒนาองค์ความรู้เป็น Smart Farmer

     วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน 2558 นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ชลบุรีเพื่อพบปะอาสาสมัครชาวนาหัวไวใจสู่ หวังพัฒนาองค์ความรู้เป็น Smart Farmer ด้านข้าวเหนียว พร้อมขับเคลื่อนการปฏิรูประบบการผลิตและการค้าข้าวเหนียวไทยให้มี ประสิทธิภาพอย่างเป็นระบบ ณ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง ตำบลหนองบอนแดง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี
     ปัจจุบันประเทศไทยได้ผลิตข้าวเหนียวเพื่อบริโภคภาคในประเทศร้อยละ 95และส่งออกในภูมิภาคอาเซียน และตลาดเอเชียร้อยละ 5 ของผลผลิต โดยมีพื้นที่เพาะปลูกมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือตอนบน ประมาณ 16.7 ลานไร่ ผลผลิต 5 – 8 ล้านตันข้าวเปลือก ซึ่งไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวเหนียวอันดับหนึ่งในตลาดโลก โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่ทั้งในอาเซียนและตลาดเอเชีย ที่เป็นประเทศผู้นำข้าวเหนียวกว่าร้อยละ50 ในตลาดโลกยังนิยมบริโภคข้าวเหนียวจากไทยด้วย
     นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดอบรมในช่วงฤดูนาปี 2558/59 ได้เปิดเวทีรับสมัครชาวนาหัวไวใจสู่ ในพื้นที่ 4จังหวัดนำร่อง ได้แก่ 1.อำเภอสันป่าตอง และอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่2.อำเภอเวียงป่าเป้า และอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงใหม่ 3.อำเภอบ้านผือ และอำเภอเพ็ญ จังหวัดดุดรธานี และ 4.อำเภอบ้านไผ่ และอำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น อำเภอละ 40 คน เพื่อเข้ารับการอบรมชาวนาธรรมชาติ ณ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี พร้อมทั้งให้มีการทำนาธรรมชาติ โดยมีทีมงานตรวจเยี่ยมแปลงนาอย่างใกล้ชิด พร้อมให้ความรู้กันถึงแปลงนาของเข้าอบรมกันอย่างจริงจัง หลังจากนั้นมีการเก็บเกี่ยวผลผลิต และสรุปประเมินผล ทั้งความสำเร็จและข้อปรับปรุงเพื่อนไปขยายผลต่อในรอบนาปรังที่ครอบคลุม พื้นที่ 15จังหวัด ณ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงในค่างทหารของแต่ละจังหวัดต่อไป
     นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ในส่วนของการขับเคลื่อนโครงการปฏิรูปข้าวเหนียว ในภาคการผลิตนั้นนอกจากระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมการข้าว ได้ดำเนินการส่งเสริมการผลิตในลักษณะให้มีการปรับลดต้นทุนการผลิต โดยไม่ใช้สารเคมี ด้วยวิถีกสิกรรมธรรมชาติตามศาสตร์พระราชา ซึ่งจะนำไปสู่การใช้ชีวิตที่พอเพียง ตามบันได 9 ขั้น เพื่อความมั่งคั่งและยั่งยืนของาวนาธรรมชาติ เป็น Smart Farmer ข้าวเหนียวต่อไป
     หลังจากการพบปะชาวนาหัวไวใจสู่ และให้คะแนนอาหารฝีมือชาวนา ณ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรีแล้วว่า ข้าวเหนียวนับเป็นสินค้าที่มีความสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม นอกจากการผลิตเพื่อบริโภคในประเทศแล้วยังมีการส่งออกข้าวเหนียวนำรายได้เข้า สู่ประเทศอีก แต่กระบวนการผลิตและการค้าข้าวเหนียวของไทย ยังประสบปัญหาทั้งด้านประสิทธิภาพการผลิต การพัฒนาองค์ความรู้ของชาวนา การสร้างมูลค่าเพิ่มและการตลาด ซึ่งราคาข้าวเปลือกในแต่ละปีมีความผันผวนมาก ส่งผลให้ชาวนาส่วนใหญ่ที่เป็นชาวนารายย่อยจากการปลูกข้าวไม่เพียงพอกับการ ดำรงชีพ จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาระบบการผลิตข้าเหนียวไทยและชาวนาต่อไป

ปริญญา/ข่าว/ภาพ