โครงการสร้างภูมิคุ้มกันของสังคมในนิติวัฒนธรรม |
|
วัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี จัดโครงการสร้างภูมิคุ้มกันของสังคมในมิติวัฒนธรรม ค่ายเยาวชนอาสาสมัครเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 นายสามารถ เที่ยงพูนวงศ์ วัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี เป็นประธานพิธีเปิดโครงการสร้างภูมิคุ้มกันของสังคมในมิติวัฒนธรรม ค่ายเยาวชนอาสาสมัครเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม จังหวัดชลบุรี ณ ศาลาประชาคมที่ว่าการอำเภอเมืองชลบุรี กระทรวงวัฒนธรรม ได้เล็งเห็นความสำคัญว่าในปัจจุบันประชาชนในสังคม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ปล่อยปละละเลยแบบแผน ค่านิยม และวิถีชีวิตอันดีงามของไทยไปชื่นชมวัฒนธรรมต่างชาติโดยขาดการเลือกสรร ทำให้สูญเสียเอกลักษณ์ความเป็นปึกแผ่น ความมั่นคงของสังคมไทย ก่อให้เกิดปัญหาทางวัฒนธรรมในขั้นวิกฤตและทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องหลายประการ ดังนั้นกระทรวงวัฒนธรรมซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะการสร้างภูมิคุ้มกันให้เกิดขึ้นในสังคม จึงได้ดำเนินงานโครงการสร้างภูมิคุ้มกันของสังคมในมิติทางวัฒนธรรมขึ้น เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนสามารถบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรมและพื้นที่ด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตความเป็นไทย ใช้เป็นหลักในการสร้างภูมิคุ้มกันเตรียมพร้อมต่อสังคม และวัฒนธรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งยังร่วมเป็นเครื่องข่ายในการเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม เพื่อให้สังคมไทยเข้มแข็งและสร้างสรรค์อย่างยั่งยืนต่อไป นางสาวทัศนีย์ ดอนเนตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม ได้มอบหมายให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี จัดโครงการสร้างภูมิคุ้มกันของสังคมในมิติวัฒนธรรม ค่ายเยาวชนอาสาสมัครเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม จังหวัดชลบุรี จำนวน 2 รุ่นๆละ สำหรับรุ่นแรก จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 14 กุมภาพันธ์ 2559 ส่วนรุ่นที่สอง จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 20 กุมภาพันธ์ 2559 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กและเยาวชน มีภูมิคุ้มกันทางสังคมและวัฒนธรรม เพื่อให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือ ของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะได้ร่วมเป็นเครือข่ายในการเฝ้าระหว่างทางวัฒนธรรมต่อไป นายสามารถ เที่ยงพูนวงศ์ วัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า โครงการสร้างภูมิคุ้มกันของสังคมในมิติวัฒนธรรม ค่ายเยาวชนอาสาสมัครเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม จังหวัดชลบุรี เป็นโครงการที่นำเด็กและเยาวชน เข้ารับการฝึกอบรมเพื่อให้มีภูมิคุ้มกันทางสังคมและวัฒนธรรม ทั้งยังสามารถที่จะเลือกสรรกลั่นกรองนำเอาสิ่งดีงามมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตพื้นฐานวัฒนธรรมไทย และสามารถรู้เท่าทันสื่อร้าย ขยายสื่อดีได้ อีกทั้งเพื่อที่จะได้ร่วมเป็นเครือข่ายในการเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ก็จะทำให้สังคมไทยสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมทั้งพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืนได้ความเข้มแข็งให้กับสถานบันทางสังคมในระดับต่างๆ เพื่อให้สังคมไทยเข็มแข็งและสร้างสรรค์ต่อไป ปริญญา/ข่าว/ภาพ |