Home
|
ชลบุรี จัดการประชุมนักธุรกิจ SMEs |
|
วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดการประชุมเตรียมความพร้อมให้ SMEs มีบัญชีเดียว ณ โรงแรมแอมบาสเดอร์ซิตี้จอมเทียนพัทยา จังหวัดชลบุรี
จังหวัดชลบุรี ร่วมกับ หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรมสรรพากร สมาคมผู้ตรวจสอบบัญชีอากรแห่งประเทศไทย และธนาคารกรุงไทย จัดสัมมนา “การเตรียมความพร้อมและรณรงค์ให้ SMEs“ ได้แก่นักธุรกิจ "วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม" ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีได้รับทราบและเตรียม จัดทำบัญชีให้ตรงกับความเป็นจริงต่อกรมสรรพากร หรือ “บัญชีเดียว” เพื่อรับสิทธิประโยชน์ ในการวางแผนธุรกิจในการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน SMEs ธุรกิจตนเอง ในการร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลมีความต้องการให้ผู้ประกอบการจัดทำบัญชีและงบการเงินให้สอด คล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการ จึงได้ออกมาตรการบัญชีเล่มเดียวเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับ คือ พระราชกำหนดการยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร พ.ศ.2558 และพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 595) พ.ศ.2558 โดยมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา โดยมีสาระสำคัญคือ การยกเว้นไม่ตรวจสอบภาษีย้อนหลังในกรณีที่ผู้ประกอบการปรับปรุงบัญชีใหม่จากข้อผิดพลาดที่มีมาแต่อดีตให้ตรงตามสภาพความเป็นจริง และยกเว้นภาษี/ลดหย่อนภาษีเงินได้ ให้สำหรับปีภาษี 2559 และ 2560 โดยผู้ประกอบการที่จะสมัครใช้สิทธิต้องจดแจ้งแสดงเจตจำนงกับกรมสรรพากร ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2559 ซึ่งเหตุผลและความจำเป็นในการตราพระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรก็คือ เพื่อสะท้อนสภาพกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศ โดยรัฐบาลสามารถวิเคราะห์และวางแผนในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการได้ตรงต่อความต้องการ เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการผลิตและการค้ารวมถึงเป็นการสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม นอกจากนี้ การดำเนินการตามพระราชกำหนดในการจัดทำบัญชีและงบการเงินให้สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการ ยังสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการนำระบบ e-Payment มาใช้ ซึ่งมีส่วนในการส่งเสริมให้การทำธุรกรรมและการบริหารเงินของผู้ประกอบการ เป็นไปอย่างรวดเร็ว คล่องตัว และเกิดประสิทธิภาพ อันจะส่งผลสำเร็จต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นยังมีความสับสนอยู่มากว่าต้องปรับปรุงบัญชีอย่างไรให้ถูกต้อง และผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังมีความกังวลใจว่าสรรพากรจะแอบไปตรวจสอบภาษีย้อนหลัง หรือแม้แต่ในรายละเอียดเล็กๆ น้อยกับคำว่า “บัญชีเล่มเดียว” ก็ยังมีคนเข้าใจผิดว่าคืออะไรกันแน่ กรมสรรพากร ได้ตระหนักว่า เรื่องมาตรการระบบบัญชีเดียวเป็นเรื่องใหม่ ดังนั้นจึงได้จัดการประชุมสัมมนา เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจและเสนอแนวทางการปรับปรุงงบการเงินที่ถูกต้อง แก่ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมสัมมนาในวันนี้ นายสุทธิชัย ตันบุญยศิริเดช สรรพากรพื้นที่ชลบุรี 3 กล่าวว่า การประชุมสัมมนาในวันนี้ ได้ย้ำและยืนยันถึง มาตรการที่ออกไปนั้น “กรมสรรพากรจะไม่หลอกลวง” ผู้ประกอบการ และขอให้มั่นใจได้ว่าสรรพากรจะไม่หักหลังโดยการไปตรวจย้อนหลัง เพราะการออกกฎหมายครั้งนี้ เป็นการก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกันกับผู้ประกอบการ และกฎหมายที่ออกมาไม่ใช่การนิรโทษกรรมภาษี แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ทำบัญชีให้ถูกต้อง เนื่องจากที่ผ่านมาการทำบัญชี หรือการลงบัญชีของผู้ประกอบการหลายแห่งอาจมีข้อผิดพลาด เช่น ลงรายได้หรือบันทึกสินทรัพย์คงเหลือน้อยไป ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นสามารถแก้ไขปรับปรุงบัญชีใหม่ให้ถูกต้องได้ ทั้งนี้บัญชีเล่มเดียวไม่ได้หมายความว่า บริษัทต้องมีบัญชีเพียงเล่มเดียวเท่านั้น แต่ความหมายคือ ต้องมีบัญชีและงบการเงินที่สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการ ซึ่งจะทำเป็นหลายเล่มก็ได้ เพื่อความสะดวกในการดำเนินธุรกิจแต่ต้องเป็นข้อมูลการเงินชุดเดียวกันเท่านั้น โดยผู้ประกอบการที่จะสมัครใช้สิทธิการทำบัญชีเดียวอย่างถูกต้อง สามารถแจ้งแสดงเจตจำนงกับกรมสรรพากร ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2559 นี้เท่านั้น ปริญญา/ข่าว/ภาพ |
|
|
Date
พุธ, 08 พฤษภาคม 2024
|