Home
|
ศุลกากรแหลมฉบังยึดไม้พะยูง-ประดู่-ชิงชันครั้งใหญ่ มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท |
|
ยึดไม้พะยูง-ประดู่-ชิงชัน 20 ตู้ ครั้งใหญ่ คาด่านศุลกากรแหลมฉบัง กรมศุลกากร จับไม้ท่อน-แปรรูป พะยูง-ประดู่-ชิงชัน ครั้งใหญ่ก่อนส่งออกไปยังต่างประเทศ จำนวน 20 ตู้คอนเทนเนอร์ มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท หากถึงปลายทางประมาณกว่า 315 ล้านบาท เผยคลังกักเก็บไม้อยู่ในประเทศไทย ด้านตร.เตรียมสืบสวนหาผู้ร่วมขบวนการ เพื่อยึดทรัพย์ต่อไป
วันนี้ (24 สิงหาคม 2559) ที่ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากรที่ 2 (ขาเข้า) สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร ร่วมกับ พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ ,นายกิตติ สุทธิสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมแถลงข่าวจับกุมสินค้าประเภทไม้และไม้แปรรูปพยายามลักลอบส่งออก โดยลักลอบบรรจุมากับตู้สินค้าผ่านแดนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวไปยังเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 20 ตู้คอนเทนเนอร์ มูลค่าของกลางรวมทั้งสิ้นกว่า 40 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่พุธที่ 20 กรกฎาคม 2559 เจ้าหน้าที่ศุลกากร สำนักสืบสวนและปราบปราม นำโดยนายพงษ์ศักดิ์ ธนะวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 1 และนายกิติภูมิ คีรีวรรณ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปรามที่ 3 ได้เข้มงวดในการตรวจสอบสอบใบขนสินค้าผ่านแดนเป็นพิเศษ และพบสิ่งผิดปกติและมีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการกระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้องสำหรับใบขนสินค้าผ่านแดนเลขที่ 2901 25907 00091 ซึ่งสำแดงชนิดสินค้าเป็นถ่านไม้ COMPRESSED ASH OF WOOD ขนส่งโดยบริษัทเอเชีย ทรานส์ไลน์ จำกัด โดยจะขนส่งผ่านแดนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเข้าทางด่านศุลกากรหนองคาย ไปยังเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน สำหรับผู้รับสินค้าคือ HONGKONG WORLD LOGISTICS LIMITED โดยจะส่งออกทางท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ประสานงานกับฝ่ายสืบสวนและปราบปราม และศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อทำการตรวจสอบภาพเอกซเรย์ตู้คอนเทนเนอร์หมายเลข TSLU0226949 และ FCIU5407703 ผลการตรวจสอบ พบว่า ภาพเอกซเรย์มีลักษณะทางกายภาพไม่ตรงตามที่สำแดงในใบขนสินค้าผ่านแดนและไม่ตรงกับภาพเอกซเรย์จากท่าต้นทางที่ด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวคือภาพเอกซเรย์ต้นทางมีลักษณะเป็นถ่านไม้ แต่ภาพเอกซเรย์ที่ท่าปลายทางที่ท่าเรือแหลมฉบังจะมีลักษณะคล้ายไม้ท่อนและไม้แปรรูป ดังนั้นเจ้าหน้าที่ฯ จึงติดตามขยายผลและตรวจสอบใบขนสินค้าผ่านแดนเพิ่มเติมและพบว่า สินค้ามีลักษณะทางกายภาพไม่ตรงกับที่สำแดงไว้เช่นเดียวกัน ตามใบขนสินค้าผ่านแดน รวมจำนวน 18 ตู้คอนเทนเนอร์ เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ประสานไปยังท่าเทียบเรือและทำการอายัดตู้สินค้ารวมจำนวนทั้งสิ้น 20 ตู้ เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป นายกุลิศ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทางกรมศุลกากรได้เชิญผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ประจำราชอาณาจักรไทย และผู้แทนบริษัท เอเชียทรานส์ ไลน์ จำกัด ร่วมกันเปิดตรวจสินค้าผ่านแดนดังกล่าวในวันนี้ สำหรับการปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมสินค้าลักลอบหลีกเลี่ยงตามพระราชบัญญัติศุลกากร อย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง ตามนโยบายของกรมศุลกากร เพื่อเป็นการขจัดอิทธิพลและการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบของกลุ่มขบวนการค้าของเถื่อน ซึ่งของกลางในครั้งนี้ถือว่ามีจำนวนมากและครั้งใหญ่ รวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท และหากสินค้าดังกล่าวสามารถส่งออกไปยังประเทศที่ 3 มูลค่าของสินค้าก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึงกว่า 315 ล้านบาท นายกุลิศ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น จะต้องมีผู้ร่วมขบวนการ โดยสินค้าขนส่งผ่านแดนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเข้าทางด่านศุลกากรหนองคาย เพื่อไปยังเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นถ่านไม้ แต่ในระหว่างที่จะมาลงที่ท่าเรือแหลมฉบังนั้น มีการสับเปลี่ยนสินค้าจากถ่านไม้ เป็นไม้พะยูง-ประดู-ชิงชัน ซึ่งแสดงว่าจะต้องมีคลังไม้ดังกล่าวในประเทศไทยอย่างแน่นอน ด้านพลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสนใจและจะสืบสวนติดตาม เพื่อขยายผลผู้ร่วมขบวนการในครั้งนี้ และพร้อมใช้มาตรการยึดทรัพย์ต่อไป |
|
|
Date
อาทิตย์, 28 เมษายน 2024
|