ปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ทางเท้าสาธารณะริมหาดพัทยา |
|
เทศกิจควงแขนทหารออกปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ทางเท้าสาธารณะ งัด พ.ร.บ.รักษาความสะอาดมาจัดระเบียบผู้จำหน่ายสินค้าหน้าห้างดังริมหาดพัทยา
เมื่อวันที่ 23 ก.ย.59 ที่ชายหาดพัทยาบริเวณปากซอย 9 ตรงข้ามสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา ถนนเลียบชายหาดพัทยากลาง จ.ชลบุรี นายเศรษฐพล บุญสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานด้านกฎหมายและให้คำปรึกษาผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจจำนวน 50 นาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ระดมกำลังปล่อยแถวเพื่อออกปฏิบัติการจัดระเบียบตามโครงการขอคืนทางสาธารณะและฟุตบาท หลังมีบรรดาพ่อค้า-แม่ค้าใช้พื้นที่สาธารณะในการจำหน่ายสินค้าทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการกวาดจับกลุ่มผู้ค้าอาหาร-เครื่องดื่ม ที่ใช้รถจักรยานยนต์ต่อพ่วงดัดแปลงเป็นร้านจำหน่ายสินค้าเคลื่อนที่ที่ตระเวนขายให้กับนักท่องเที่ยวตลอดแนวถนนเลียบชายหาดพัทยาเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร และสามารถจับกุมผู้ค้าได้นับ 10 ราย ก่อนที่จะทำการเปรียบเทียบปรับเป็นเงินจำนวน 2,000 บาท ทำให้บรรดาพ่อค้า-แม่ค้าต่างบ่นอุบว่านโยบายดังกล่าวมีมาตรการในการจับปรับเป็นจำนวนเงินที่มากเกินไป เพราะปกติกำไรจากการขายของในแต่ละวันก็ไม่ได้มากมายอะไร หากต้องจ่ายค่าปรับแพงแบบนี้คงทำให้ได้รับความเดือดร้อน และเรียกร้องให้เมืองพัทยาจัดทำโซนที่ขายได้ให้ชัดเจน ต่อมาคณะได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณหน้าร้านพิซซาคอมปานี ติดกับศูนย์การค้ารอยัลการ์เด้น พลาซ่า พัทยา เพื่อติดตามผลความคืบหน้าการจัดระเบียบบริเวณทางเท้าสาธารณะ พร้อมกับพูดคุยเจรจากับผู้ประกอบการค้าในบริเวณดังกล่าว เพื่อขอความร่วมมือให้รื้อถอนร้านค้าออกจากแนวกำแพงริมทางเท้าสาธารณะ เพราะถือว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด มาตราที่ 40 และ 41 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดติดตั้ง ตาก วาง หรือแขวนสิ่งของที่อาคารในลักษณะสกปกรกรุงรังหรือไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย และมีสภาพที่ประชาชนอาจเห็นได้จากที่สาธารณะ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในระยะไม่เกิน 20 เมตรจากขอบทางเดินรถที่มีผิวการจราจรกว้างไม่ต่ำกว่า 8 เมตร และก็ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเป็นอย่างดี นายเศรษฐพล เปิดเผยว่า นโยบายนี้ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเคลื่อนย้าย รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของผู้ประกอบการที่ใช้ทางเดินเท้าสาธารณะในการจัดวางสิ่งของมาแล้วตลอดแนวถนนสายชายหาด แต่ยังมีบางส่วนที่ไม่ได้ดำเนินการเพราะยังเข้าใจว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลที่สามารถกระทำได้ อย่างไรก็ตาม ในแง่ของกฎหมายแล้วแม้จะเป็นที่ส่วนบุคคลแต่หากสิ่งของที่จัดวางมีลักษณะสกปกรกรุงรัง และยังมีพื้นที่ติดกับผิวจราจรขนาดใหญ่ ก็สามารถเข้ามาตรวจสอบและให้ดำเนินการยกเลิกได้ ทั้งนี้จากผลการเจราจรผู้ประกอบการก็มีความเข้าใจเป็นอย่างดี และพร้อมที่จะเคลื่อนย้ายเข้าสู่พื้นที่ด้านใน หลังจากนี้จะได้ทำการนัดหมายเจ้าของที่ส่วนบุคคลต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงมาหารือเพื่อกำหนดสถานที่ และรูปแบบการจำหน่ายที่ถูกต้องต่อไป. อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล/นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี081-3455203 /086-3684323 |