รอง ผบช.ภ.2 แถลงข่าวจับกุมคนร้ายก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่หนองขาม และใกล้เคียง พร้อมรถที่ถูกก่อเหตุไป จากการสืบสวนติดตามจับกุมจากภาพกล้องวงจรที่ชุดสืบตรวจสอบจนสามารถจับกุมตัวได้...

     วันนี้ (5 มกราคม 2560) ที่ บริเวณด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรหนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี  พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รอง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.หนองขาม  พ.ต.ท.ณกฤช ใจรักเรียน รอง ผกก.ป.สภ.หนองขาม พร้อมชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุมตัวนายเอกรัตน์ หรือลัก หมากสุข อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.4 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในข้อหาลักรถจักยานยนต์ พร้อมด้วยของกลาง เป็นรถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นสปีด สีแดง ขาว หมายเลขทะเบียน กพท-741 ชัยภูมิ  รถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสแมช สีฟ้า หมายเลขทะเบียน คธม 112 ชลบุรี (ได้แจ้งหายไว้ที่ สภ.หนองขาม)  รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโซนิค สีแดง ทะเบียน 1กจ- 27 บุรีรัมย์(แจ้งหายไว้ที่ สภ.แหลมฉบัง)  และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีเทา ทะเบียน ขพง-503 ขอนแก่น(อยู่ระหว่างตรวจสอบการแจ้งหาย)... 
     ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 12.30 น. ของวันที่ 3 มกราคม 2560 เจ้าหน้าที่ ได้รับแจ้งจากนายบรรจง เกิดบ้านนอก อายุ 38 ปี ว่าที่หอพักบ้านสวนสบาย เลขที่ 239/4 ม.11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา ได้มีคนร้ายเข้ามาลัก รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีแดงขาว หมายเลขทะเบียน ขพท-741 ชัยภูมิ แล้วหลบหนีไป โดยกล้องวงจรปิดภายในหอพักดังกล่าวสามารถบันทึกภาพไว้ได้ เป็นคนร้าย 3 คน ซึ่งในขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.หนองขาม ก็ได้สืบสวนจนทราบตัวคนร้าย 1 ใน 3 คนที่ก่อเหตุซึ่งหลบหนีไปพักซ่อนตัวอยู่แถวบริเวณชุมชนในไร่ ม.5 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบจนสามารถจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้ ส่วนคนร้ายอีก 2 คน ที่ร่วมก่อเหตุขณะนี้รู้ตัวแล้วว่าคือนายเอ(นามสมมุติ)อายุ15ปี และนายบี(นามสมมุติ)อายุ 14 ปี ซึ่งหลบหนีอยู่และทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป...
     พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รอง ผบช.ภ.2  เผยว่า การจับกุมครั้งนี้ ทางชุดสืบสวนได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี จนสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครจนนำมาสู่การจับกุมตัวในครั้งนี้ ซึ่งนายเอกรัตน์ หรือลัก ผู้ก่อเหตุก็รับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริงแต่ไม่ได้เอาไปขายเพียงลักมาไว้ใช้เท่านั้นแต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การจึงได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติมก่อนจะส่งดำเนินคดีต่อไป...
     พล.ต.ต.สุรพล กล่าวต่อว่า จึงอยากฝากสื่อช่วยประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนให้ระมัดระวังดูแลความปลอดภัยของทรัพย์สินให้ดี ไม่ควรจอดรถจักรยานยนต์ในสถานที่เปลี่ยวและควรล็อคคอรถทุกครั้งให้เรียบร้อยเมื่อจอด  อีกทั้งควรมีอุปกรณ์กันขโมยเสริมที่ทำให้คนร้ายก่อเหตุได้ยากขึ้น เช่น ที่ล็อคดิสเบรก หน้า-หลัง เนื่องจากคนร้ายมักจะก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ในสถานที่เปลี่ยวและถ้าไม่มีอุปกรณ์กันขโมยก็จะง่ายต่อการเข้าก่อเหตุแต่ละครั้งของคนร้าย แต่ถ้าหากมีก็จะทำให้คนร้ายก่อเหตุยากขึ้น...