ประมงระยองจัดโครงการปล่อยลูกปูคืนสู่ทะเล  304  ล้านตัว ชูแนวคิดอาชีพประมงยั่งยืนได้ท่ามกลางวงล้อมอุตสาหกรรม

     การลดลงอย่างรวดเร็วของทรัพยากรธรรมชาติยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่เกือบทุกประเทศทั่วโลก  ต่างกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน  ทรัพยากรประมงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กำลังก้าวเข้าสู่ภาวะวิกฤติ  จากที่เคยเชื่อกันว่าปริมาณทรัพยากรประมงที่มีอยู่อย่างมากมายในท้องทะเลใช้อย่างไรก็ไม่มีวันหมด  แต่เมื่อความเจริญของเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง  ส่งผลให้แหล่งทรัพยากรประมงที่เคยอุดมสมบูรณ์ต่างก็ได้รับผลกระทบจากระบบอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวาง  เริ่มตั้งแต่การถมทะเลเพื่อใช้เป็นที่ตั้งโรงงาน กระทั่ง  การปล่อยน้ำทิ้งและสารเคมีลงสู่ทะเล  ทำให้พื้นที่การทำประมงถูกบุกรุกและถูกทำลายเป็นจำนวนมาก 

     กลุ่มประมงพื้นบ้านบริเวณพื้นที่เขตอุตสาหกรรมมาบตาพุด ทั้งในเขตอำเภอเมือง และเขตอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง  เป็นอีกหนึ่งในพื้นที่ทำการประมงที่ได้รับผลกระทบจากการบุกรุกพื้นที่เพื่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้ระบบนิเวศน์เกิดการเปลี่ยนแปลง แหล่งอาศัยของสัตว์น้ำนานาชนิดถูกทำลาย  ส่งผลให้ทรัพยากรสัตว์น้ำลดลงอย่างรวดเร็ว  และส่งผลกระทบโดยตรงต่อวิถีชีวิตของชาวประมงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  เพราะพวกเขาต้องออกเรือไปจับสัตว์น้ำไกลกว่าเดิม เพิ่มภาระต้นทุนในการเดินทาง และสัตว์น้ำที่จับได้ก็มีปริมาณน้อย แถมยังเสี่ยงทั้งชีวิตและทรัพย์สินอีกด้วย

     เมื่อเป็นเช่นนี้  การอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรประมงจึงนับเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทุกฝ่ายพึงต้องปฏิบัติโดยการประสานความร่วมมือร่วมใจ เพื่อรักษาระบบนิเวศน์และทรัพยากรสัตว์น้ำไว้ไม่ให้หมดไปจากท้องทะเล  ด้วยการช่วยกันผลักดันให้ระบบอุตสาหกรรมเดินเคียงคู่ไปกับการทำประมงอย่างยั่งยืน

     สำนักงานประมงจังหวัดระยอง จึงได้จัดโครงการ ปล่อยพันธุ์ลูกปูม้าสู่ทะเล จำนวน 304 ล้านตัวขึ้น  เพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปได้รับทราบว่าอุตสาหกรรมกับการประมงสามารถอยู่ร่วมกันได้  ด้วยความร่วมมือระหว่างชาวประมงซึ่งเป็นผู้ดูแลทรัพยากร  และกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมให้การสนับสนุนงบประมาณ  โดยมีกระบวนการทำงานเริ่มจากการประชุมกลุ่มประมงพื้นบ้านที่จะดำเนินการ และแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารงานในพื้นที่อำเภอละ  1 จุด  จากนั้นจะจัดสร้างสถานที่ปล่อยพันธุ์ปูพร้อมจัดหาลูกพันธุ์จากแหล่งต่างๆ เช่น ซื้อแม่ปูที่มีไข่นอกกระดองจากชาวประมง  และมีการติดตามการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด   ซึ่งเป็นการร่วมกันบริหารทรัพยากรสัตว์น้ำโดยชุมชนและภาคเอกชนแบบมีส่วนร่วม สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับธรรมชาติให้มีความยั่งยืน ทั้งยังเป็นการเพิ่มจำนวนประชากรปูทะเลในแหล่งน้ำธรรมชาติและเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวประมงในพื้นที่อีกด้วย

     นอกจากนี้ กิจกรรมการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำแล้ว ทางสำนักงานฯ ยังได้ส่งเสริมอาชีพด้านการประมงรวมถึงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ ได้พิจารณาเสนอโครงการการเลี้ยงหอยแมลงภู่แบบแพและโครงการธนาคารปูแสม เป็นการนำโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อไปขยายผลในด้านการพัฒนาด้านการส่งเสริมอาชีพ และด้านการฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ ให้มีสภาพคงความอุดมสมบูรณ์เหมือนเมื่อครั้งในอดีต ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาอุตสาหกรรมของภูมิภาคที่ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม และอยู่ร่วมกับชุมชน สังคมได้อย่างช่วยเหลือเกื้อกูลและยั่งยืน

นิราช ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว