อบรมทบทวนฟื้นฟูลูกเสือชาวบ้านสัตหีบที่บ้านอำเภอยังเหนียวแน่น

     ฝึกทบทวน ลูกเสือชาวบ้านอำเภอสัตหีบ  เชื่อมความสามัคคี รวมพลังแสดงความจงรักภักดี ต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  พร้อมกับทบทวน หลักวิชาการ  กฎ ระเบียบ คำปฏิญาณ และอุดมการณ์ของลูกเสือชาวบ้านให้เข้มแข็ง.

     (14 กันยายน 2552 ) นาย ชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ ได้มอบหมายให้ นาย  สุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดอำเภอสัตหีบ มาเป็นประธานในพิธี เปิดการฝึกอบรมทบทวนลูกเสือชาวบ้านอำเภอสัตหีบ ประจำปี 2552  เพื่อฟื้นฟูกิจการลูกเสือชาวบ้านและรวมพลังแสดงความจงรักภักดีต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ทรงรับกิจการลูกเสือชาวบ้านไว้ในพระราชานุเคราะห์ โดยมีลูกเสือชาวบ้านอำเภอสัตหีบในพื้นที่ตำบลบางเสร่ และ ตำบลนาจอมเทียน เข้าร่วมการจัดกิจกรรมในวันนี้กว่า 500 คน  ณ ศาลาการเปรียญ วัดอัมพาราม ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

     นาย ภิญโญ สายนภา ประธานชมรมลูกเสือชาวบ้านอำเภอสัตหีบ กล่าวรายงานในนามของคณะ กรรมการดำเนินการจัดการฝึกอบรม คณะวิทยากร และผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกคนว่า การฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้านในวันนี้เป็นการ ฝึกฟื้นฟูกิจการลูกเสือชาวบ้าน ให้ลูกเสือชาวบ้านได้เพิ่มพูนความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และประสานสัมพันธ์กันเป็นเครือข่าย อันจะนำไปสู่การดำเนินกิจการของลูกเสือชาวบ้านอำเภอสัตหีบได้อย่างมีประสิทธิภาพ  เพื่อทบทวนการเข้าค่ายพักแรม หลักวิชาการ กฎ ระเบียบ คำปฏิญาณ และอุดมการณ์ของลูกเสือชาวบ้าน และประการสำคัญ เพื่อรวมพลังแห่งความสามัคคีแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช พระบิดาลูกเสือชาวบ้านไทย  โดยมีลูกเสือชาวบ้านหมู่บ้านละ 30 คน  เข้ารับการฝึกอบรมทบทวนในวันนี้กว่า 500  คน

     นาย  สุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดอำเภอสัตหีบ ในฐานะผู้แทนนายอำเภอสัตหีบประธานในพิธีกล่าวว่า  การฝึกทบทวนลูกเสือชาวบ้านอำเภอสัตหีบ ประจำปี 2552    ในวันนี้ โดยมี นาย ภิญโญ สายนภา ประธานชมรมลูกเสือชาวบ้านอำเภอสัตหีบ และสมาชิกสภาจังหวัดชลบุรี เป็นผู้ประสานลูกเสือชาวบ้านทุกตำบล เพื่อมารวมพลังแห่งความสามัคคี และแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงรับกิจการลูกเสือชาวบ้าน ไว้ในพระราชานุเคราะห์  

     เปรียบเสมือนการจัดกิจกรรมคืนสู่เหย้าให้กับลูกเสือชาวบ้านอำเภอสัตหีบ เป็นการปลุกกิจกรรมลูกเสือชาวบ้านที่เงียบหายไปให้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง โดยให้ประชาชนทุกหมู่ได้กลับมามีส่วนร่วมในเรื่องของความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะ เพราะกิจกรรมคืนสู่หเย้าเป็นการรวมพลังลูกเสือชาวบ้านจากทุกตำบลให้เป็นกลุ่มพลังสามัคคีอันยิ่งใหญ่กลับคืนมา กิจกรรมของลูกเสือชาวบ้านนับเป็นกิจกรรมที่ดีและมีประโยชน์ที่สามารถหล่อหลอม สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข และขอให้ลูกเสือชาวบ้านได้ใช้พลังความรู้ พลังจิตใจ พลังสติปัญญา และพลังกายอย่างเสียสละในการดูแลพัฒนาสังคมและชุมชนให้ เกิดความเข้มแข็ง มั่นคง รวมทั้งรู้รักสามัคคี อันจะส่งผลให้ชุมชนเกิดความสงบสุขอย่างยั่งยืนตลอดไป

นิราช  ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว  2009-09-14