ไต๋เรือหึงหวงภรรยาคว้ามีดปลายแหลมแทงดับก่อนเตรียมนำศพขึ้นเรือ ทิ้งกลางทะเล อำพรางคดี
ไต๋เรือหึงหวงภรรยาตีตัวออกห่างตามง้อไม่สำเร็จถือโอกาสช่วงมาเอาของที่ห้องคว้ามืดปลายแหลมแทงเข้าที่หลังก่อนกระหน่ำตีจนดับคาพื้น นำผ้าน่วมมาห่อร่างก่อนมัดด้วยเชือดฝางเตรียมนำขึ้นเรือประมง ทึ้งกลางทะเลอำพรางคดี แต่แผนแตกพ่อตารู้เก็บของหนีลอยนวล เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 18 กันยายน 2552 ร.ต.ท.เรวัตร พิษโสระ พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รับแจ้งมีเหตุคนถูกแทงเสียชีวิต ที่ห้องเช่าเลขที่ 35 บ้านช่องแสมสาร หลังเมรุ วัดช่องแสมสาร หมู่ 2 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ พ.ต.ท.เชษฐา กีชวรรณ์ รอง.ผกก.ปป สภ.สัตหีบ พ.ต.ต. ปารุต สามารถ สว.สส.สภ.สัตหีบ ก่อนรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ร่วมกับแพทย์เวร จากโรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ที่เกิดเหตุเป็นห้องพักชั้นเดียว ห้องที่ 2 ภายในห้องพักบริเวณพื้นกระเบี้องหน้าห้องน้ำ พบศพนางศิริพร สอนน้อย อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 7 ต.เมืองหงส์ อ. จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด ในผ้าน่วมห่อร่างอยู่ รัดด้วยเชือกฝาง บริเวณศีรษะมีถุงพลาสติกครอบไว้อีกชั้น ตรวจสอบบริเวณศีรษะถูกของแข็งตีจนแตกและบวมไปทั้งใบหน้า ด้านหลังของผู้ตายยังพบแผลถูกแทงด้วยมีดจำนวน 1 รู ใกล้กันนั้นพบมีดปลอกผลไม้มีคราบเลือดติดอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ด้านนายสมชาย สอนน้อย อายุ 42 ปี บิดาผู้ตาย ให้การว่า นางศิริพร ฯ ลูกสาวของตนได้แต่งงานกับนาย สันติ โกสุม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ม.3 ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ลูกเขย มานานกว่า 4 ปี ซึ่งทำงานเป็นไต๋เรือ อยู่เรือสร้อยทองคำ 19 ส่วนลูกสาวของตน เป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมมาบตาพุต จังหวัดระยอง สองสามีภรรยามีปัญหาครอบครัวด้วยเรื่องหึงหวง จึงตัดสินใจแยกกันอยู่ประมาณ 1สัปดาห์ ฝ่ายสามีหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลาว่าภรรยาจะไปมีแฟนใหม่ ส่วนภรรยาพาลูกสาว 1 คน ไปอาศัยอยู่ที่บ้านตน แต่ระหว่างที่แยกกันอยู่สองสามีภรรยายังตัดกันไม่ขาด สามีจะมาหาภรรยาที่บ้าน ส่วนภรรยาก็จะแวะไปดูสามีที่บ้านเป็นระยะ ฝ่ายภรรยาก็ยังไม่ใจอ่อนนำลูกกลับมาอยู่ที่บ้านด้วยซึ่งช่วงดึกตนได้โทรหาลูกสาวจำนวนหลายครั้งแต่ไม่มีคนรับประกอบกับนายประสิทธิ์ โกสุม น้องชาย ผู้ก่อเหตุได้โทรมาบอกให้รีบมาดูลูกสาวด่วนจึงได้ขับรถมาดูที่บ้านนายสันติฯแต่เห็นห้องปิดไฟเงียบผิดปกติจึงได้งัดห้องเข้าไปดูก็พบลูกสาวกลายเป็นศพไปแล้วส่วนนายสันติฯลูกเขยได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย จาการสอบสอน นายประสิทธิ์ โกสุม อายุ 34 ปี น้องชายผู้ก่อเหตุทราบว่าเวลา 06.30 นายสันติ โกสุม พี่ชายตนได้มาหาที่สะพานปลาพร้อมกับเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังพร้อมกับให้ตนไปหารถกระบะมาใส่ศพนำไปขึ้นเรือประมงที่จอดอยู่ที่ท่าเรือเพื่อจะนำศพไปทึ้งกลางทะเลเพื่ออำพรางคดีแต่ตนกลัวความผิดจึงไม่เอาด้วยเพียงแต่รับปากว่าจะหารถให้ก่อนที่พี่ชายจะออกไปซื้อเชือกฝางเพื่อนำไปมัดศพ ก่อนที่จะหายไปตนจึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งนายสมชาย สอนน้อย พ่อของผู้ตายให้รีบมาดูลูกสาวด่วน นายแพทย์นิติยา ยวงเดชกล้า แพทย์เวรประจำโรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 กล่าวว่าจากการตรวจสอบบาดแผลของผู้ตายพบมีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งจนใบหน้าช้ำและยังพบรูถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่ด้านหลังเป็นแผลลึกคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง ร.ต.ท.เรวัตร พิษโสระ พนักงานสอบสวน ได้กล่าวว่าจากสอบถามผู้ที่อาศัยอยู่ห้องพักติดกันและผู้ที่เห็นผู้ตายครั้งสุดท้ายทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาช่วงเช้าที่ผ่านมา นางศิริพรได้เดินทางมาเอาของที่บ้านนายสันติฯได้ซักไซ้นางศิริพรฯเรื่องเพื่อนผู้ชายที่ทำงานอยู่บริษัทเดียวกัน จนเกิดมีปากเสียงกันอย่างหนัก จนนายสันติ ได้ลากนางศิริพรเข้าไปในห้องก่อนจะปิดประตู ก่อนที่นายสันติจะเกิดอาการหึงหวง จึงได้คว้าเอามีดปลายแหลมที่วางอยู่ในห้องครัวมาจ้วงแทงเข้าที่ด้านหลัง ก่อนใช้ของแข็งตีเข้าที่ใบหน้า จนเสียชีวิตดังกล่าว ก่อนจะนำผ้าน่วมมาห่อศพเพื่อเตรียมจะนำศพผู้ตายขึ้นเรือประมงไปทึ้งกลางทะเลอย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ในเบื้องต้นได้ตั้งชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่และบ้านญาติของนายสันติที่คาดว่าจะหนีไปกบดานเพื่อตามล่าฆาตกรรมรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นิราช ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว 2009-09-18 |