ทลฉ.นำพื้นที่ให้เช่าจำนวน 70 ไร่ ใช้เป็นลานจอดพักรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ลดความแออัดบนท้องถนน อีกทั้งยังสามารถแก้ปัญหาการจราจรในท่าเรือฯ ให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น

     วันนี้ ( 9 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.ต. มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ถึงปัญหาการจราจรภายในท่าเรือแหลมฉบังว่า ท่าเรือแหลมฉบัง ไม่เคยนิ่งนอนใจและพยายามที่จะหามาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหา โดยล่าสุดได้นำพื้นที่ในรั้วศุลกากรจำนวน 70 ไร่ จาก ทั้งที่มีทั้งสิ้น 100 ไร่ พัฒนาให้รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ได้จอดพักในกรณีที่รถบรรทุกเข้ามาในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมๆกัน จนทำให้พื้นที่ท่าเรือฯ แน่นขนัด
     “ ปกติรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ จะต่อคิวยาวบนท้องถนน เพื่อรอนำสินค้าไปลงยังท่าเรือต่างๆ ทำให้คนขับรถต้องเสียเวลาและต้องสตาร์ทรถอยู่นานทำให้สิ้นเปลืองค่าน้ำมัน และอารมณ์หงุดหงิด เนื่องจากไม่สามารถไปไหนได้ วันนี้จึงได้จัดพื้นที่บริเวณดังกล่าวให้คนขับรถ นำรถมาจอดเพื่อรอรับบัตรคิว เพื่อให้คนขับจะออกไปรับประทานอาหารหรือทำธุระส่วนตัวได้ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวอยู่ใกล้กับลานกลางทุ่ง ที่มีทั้งห้องน้ำและร้านอาหาร”
     โดยพื้นที่ในรั้วศุลกากรนั้น ที่ผ่านมาท่าเรือแหลมฉบัง ได้ปล่อยให้เช่าในอัตรา ตารางวาละ 140 บาท หรือประมาณเดือนละ 4 ล้านบาท แต่ไม่มีเอกชนรายใดเช่า ดังนั้นเพื่อให้เกิดประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาด้านการจราจร ท่าเรือแหลมฉบัง จึงนำพื้นที่ดังกล่าวให้คนขับรถตู้คอนเทนเนอร์ ได้นำมารถจอดพักฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่มีเงื่อนไขคือห้ามจอดนานกว่า 24 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มมีผู้ประกอบการรถตู้คอนเทนเนอร์ ที่ทราบข่าวนำรถมาจอดพักบ้างแล้ว
     ร.ต.ต.มนตรี กล่าวอีกว่าโครงการแก้ไขปัญหาจราจรภายในท่าเรือฯ ที่ดำเนินการแล้วเสร็จแล้ว สามารถช่วยระบายรถได้ในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นโครงการขยายถนนเดิมจาก 4 ช่อง เป็น 6 ช่อง โดยเพิ่มฝั่งละ 1 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 4.6 กิโลเมตร ,งานก่อสร้างสะพานข้ามแยก และงานก่อสร้างอาคารด่านเก็บเงินประตูตรวจสอบสินค้า 1 เพิ่มเติมจำนวน 4 หลัง (14 ช่อง) ,การก่อสร้างอาคารด่านเก็บเงินประตูตรวจสอบสินค้า 3 เพิ่มเติม จำนวน 2 หลัง (6 ช่อง)
     นอกจากนี้ยังมีโครงการภายนอกการท่าเรือแหลมฉบัง ที่ประกอบด้วย การขยายถนนเดิมระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ,งานก่อสร้างสะพานกลับรถ ,งานก่อสร้างสะพานข้ามแยก และงานติดตั้งระบบสัญญาณไฟจราจร ทั้งภายในและภายนอกการท่าเรือ ซึ่งขณะนี้แล้วเสร็จไปแล้ว