รมว.อุตสาหกรรม ขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก สู่ไทยแลนด์ 4.0 |
|
วันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม 2561 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกรทะรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เพื่อหารือแนวทางการขับเคลื่อน SMEs 4.0 ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคตะวันออก ณ ห้องประชุม Kew Garden Room ทัศนาการ์เด้นท์ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี โดยมีนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นายสนธยา คุณปลื้ม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ให้การต้อนรับ
กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมหารือเครือข่ายภาครัฐ เอกชน 8 จังหวัดภาคตะวันออก พร้อมการแผนขับเคลื่อน SMEs 4.0 หวังยกระดับ SMEs ในพื้นที่เป็น SMEs อัจฉริยะ (Smart SMEs) ด้านภาคเอกชนเสนอ 3 แนวทางเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ ชูศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (Industry Transformation Center : ITC) เสริมแกร่งด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยี เตรียม SMEs สู่โลกแห่งธุรกิจยุคใหม่ขานรับนโยบายการปฏิรูปประเทศไทยเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกรทะรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การประชุมเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อหารือแนวทางการขับเคลื่อน SMEs 4.0 ในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรม SME สัญจร พลิกธุรกิจสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ครั้งที่ 2 จังหวัดชลบุรี มีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยตัวแทนภาคเอกชนในพื้นที่เข้าร่วมหารือ โดยเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ตะวันออกได้นำเสนอ flagship ที่ตอบสนองต่อความต้องการของพื้นที่ จำนวน 3 ข้อ ประกอบด้วย 1.การพัฒนานวัตกรรมยานยนต์สีเขียวสู่ EEC เพื่อส่งเสริมการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ยานยนต์ อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ ยางพารา ด้วยการสร้างนวัตกรรมครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ และบุคลากร 2.การจัดการอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปสู่ EEC ที่ต้องเน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปครบวงจร และ 3.สนับสนุนการบินสมัยใหม่ สู่ EEC ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเติบโตเร็วที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ ที่เน้นการยกระดับศักยภาพของ SMEs และ Start-up รวมทั้งอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่อง รองรับการเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศของอนุภูมิภาคคลุ่มน้ำโขงของสนามบินอู่ตะเภา นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เผยว่า การประชุมสัมมนาดังกล่าวยังเป็นการเผยแพร่นโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรมสู่ผู้ประกอบการ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในพื้นที่ภาคตะวันออก อันจะเป็นปัจจัยการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ (New-Growth Engine) ที่ส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเชื่อมโยงการค้า การท่องเที่ยว และการลงทุน ควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค และการอำนวยความสะดวกต่างๆ ในพื้นที่ EEC และจังหวัดในภูมิภาคตะวันออก รวมทั้งเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการจัดการระบบการสะสมเทคโนโลยีอย่างยั่งยืนในทุกมิติ สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้น เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของประเทศไทยต่อไป ปริญญา/ข่าว/ภาพ |