เมืองพัทยาย้ำภาคเอกชนต้องมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม |
|
สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยาย้ำภาคเอกชนต้องมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม เน้นปลูกจิตสำนึกเป็นสำคัญ หวังเริ่มต้นด้วยการคัดแยกขยะ และไม่ใช้อุปกรณ์จากพลาสติกและโฟม พร้อมประสานองค์กรเกี่ยวข้องร่วมหาแนวทาง
วันนี้ (12 ก.ย.61) ในการประชุมสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ประจำเดือนกันยายน 2561 ที่ห้องประชุมโรงแรมกรีนพาร์ค รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี โดยนายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยาเป็นประธานการประชุม ท่ามกลางสมาชิกสมาคมฯ ตลอดจนหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือในประเด็นความเป็นห่วงเรื่องความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาขยะตกค้างบนเกาะล้านที่มีกว่า 5 หมื่นตัน หลังเมืองพัทยาอนุมัติงบประมาณในการขนย้ายขยะทั้งหมดมาจัดการบนฝั่งจำนวน 95 ล้านไปแล้ว โดยนายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร สมาชิกสภาเมืองพัทยา เผยว่าที่ผ่านมาคณะสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา พร้อมคณะสมาชิกสภาเมืองพัทยา ได้ลงพื้นที่บ้านเกาะล้าน เพื่อติดตามปัญหากองขยะบริเวณเขานม หาดแสม ที่ตกค้างอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งนอกจากกระทบความเป็นอยู่ของชุมชนแบ่งยังกระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยว จึงร่วมกันติดตามความคืบหน้าเพื่อหาทางออกที่สุดในการเร่งรัดจัดการแก้ไขปัญหา ในเรื่องดังกล่าวนายธเนศ ศุภรสหัสรังสี สมาชิกสภาเมืองพัทยา เปิดเผยต่อว่าหลังจากเมืองพัทยาอนุมัติงบประมาณดังกล่าวไปแล้ว ในวันที่ 25 กันยายน 2561 นี้ เมืองพัทยาจะมีการจัดประชุมสภาขึ้น ซึ่งพร้อมจะรับเรื่องติดตามความคืบหน้าล่าสุดของการดำเนินการว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนไหนแล้วต่อที่ประชุมเพื่อรับทราบข้อมูล จากนั้นจะได้นำข้อมูลทั้งหมดมารายงานต่อสมาคมฯ ตามลำดับถัดไป ด้านนายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้กล่าวว่าควรหามาตรการประชาสัมพันธ์ไปยังนักท่องเที่ยวและบริษัทนำเที่ยว ในเรื่องของการรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกและโฟมบนเกาะล้าน พร้อมสนับสนุนให้ภาคเอกชนมีความตื่นตัวเริ่มต้นจากสถานประกอบการตนเองก่อน โดยอาจปรับเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยกันลดปริมาณขยะจากพลาสติกได้อีกเป็นจำนวนมาก ขณะที่นายรัตนชัย สุทธิเดชานัย อุปนายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่าในการแก้ไขปัญหาเรื่องขยะมูลฝอย หรือการรักษาความสะอาดควรเริ่มตั้งแต่การสร้างจิตสำนึกมาก่อนเป็นอันดับแรก ในส่วนของภาคเอกชนจึงควรให้ความสำคัญด้วยการเริ่มต้นคัดแยกขยะ หรือใช่วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ใช้พลาสติกหรือโฟม ซึ่งจะช่วยในเรื่องของความสะอาดในเมืองพัทยาได้มาก และจะได้ประสานหน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องด้านการรักษาคามสะอาดมาร่วมให้ข้อมูลและแนวทางการจัดการขยะในสถานประกอบการต่อไปด้วยเช่นกัน |