เรือประมงหยุดหาปลาจอดหลบมรสุม |
|
ชาวประมงหยุดออกเรือหลบคลื่นลมแรงอาหารทะเลเริ่มแพง
จากสภาพอากาศในภาคตะวันออกค่อนข้างเย็นและคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยังคงมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ชาวประมงส่วนใหญ่ใน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ยังคงหยุดทำการประมงและนำเรือเข้าเทียบท่าสะพานปลา โดยเฉพาะกลุ่มเรือส่วนเรือประมงขนาดเล็กที่ทำการประมงชายฝั่งทะเลอ่าวไทยแบบเช้าไปเย็นกลับหยุดเกือบทั้งหมดเพราะไม่กล้าเสี่ยงกับคลื่นที่สูง 2-3 เมตรแล้ว สัตว์ทะเลเริ่มหายากขึ้นจากสภาพน้ำที่เย็นและคลื่นลมแรง ส่งผลให้ปริมาณสัตว์น้ำที่ออกสู่ตลาดเริ่มขาดแคลนและมีราคาแพงขึ้น อย่างที่ตลาดสดเขตเทศบาลเมืองศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี แผงขายอาหารทะเลสดเริ่มปรับ ราคาแต่ไม่มากจนเกินไป เพราะเกรงว่าผู้บริโภคบ่นแต่ยอมรับว่าเรือประมงขนาดเล็กที่งดออกจากฝั่งเนื่องจากคลื่นลมแรงประกอบด้วยฝนตกหนักในช่วงกลางคืน จึงมีการปรับราคาเล็กน้อย อย่างเช่น ปูม้ากิโลละ 250 บาท จากเดิม 190 200 บาท ปลาทูกิโลละ 80 บาท จากเดิม 50 บาท ปลาหมึกกิโลละ 100-120 บาท จากเดิม 80-90 บาท และ ปลาเก๋ากิโลละ 150 บาท จากเดิม 100 บาท นางศรี มหาคาม แม่ค้าแผงอาหารทะเลตลาดสดเทศบาลเมืองศรีราชา กล่าวว่า สภาพอากาศในช่วงนี้มีคลื่นลมแรงและมีหมอกลงจัดช่วงนี้จึงจับปลาได้น้อยลงชาวประมงส่วนใหญ่จะหยุดทำการประมง ทำให้ราคาอาหารทะเลปรับราคาเล็กน้อยและปลาบางชนิดมีขนาดเล็กประกอบด้วยน้ำจืดไหลสู่ทะเล ทำให้สัตว์น้ำน้อยลงทำให้ราคาอาหารทะเลมีการปรับตัวตามสภาพ โดยทางกรมอุตุนิยมวิทยารายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. วันที่ 28 กันยายน 2552 ว่า ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านบริเวณ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเข้าสู่พายุโซนร้อน“กิสนา” (กฤษณา) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทย ทำให้ทั่วทุกภาคมีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “กิสนา” (กฤษณา)บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางห่างประมาณ 500 กิโลเมตรทางด้านตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 2009-09-29 |