ชาวประมงงดออกเรือหลังกรมอุตุฯประกาศเตือนภัยพายุกิสนา

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย “พายุ กิสนา” ซึ่งในช่วงระหว่างคืนวันที่ 29 ถึงเช้าวันที่ 30 กันยายนนี้ ประเทศไทยอาจจะได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน“กิสนา” (กฤษณา)  ที่ก่อตัวบริเวณทะเลจีนใต้ และกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก อาจทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม พายุโซนร้อนกิสนา อาจจะเข้าฝั่งประเทศลาว หรือ ทางตอนใต้ ของจีน อยากให้ประชาชนติดตามการพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากพายุดังกล่าวไม่เข้าทางฝั่งประเทศไทย ก็ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก แต่หากเข้าฝั่งไทย กรมอุตุนิยมวิทยาจะติดตามและประกาศให้ทราบก่อนล่วงหน้า 24 - 48 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เกิดความหวั่นวิตกมากจนเกินไป ซึ่งในภาคตะวันออกภาคตะวันออก จะมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักถึง หนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

     นางอารี สุธีธาราทิพย์ ผู้ประกอบการเรือประมงเล็กในเขตอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงนี้ ทางเจ้าของเรือประมงขนาดเล็ก แทบจะทุกรายได้สั่งลูกน้องเรือช่วงนี้ห้ามออกทะเลโดยเด็ดขาด เพราะคิดว่าถ้าออกเรือไปแล้วไม่คุ้ม ยอมขาดทุนน้อยดีกว่าจะออกไปเสี่ยง ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เพราะอย่างเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมานั้น ก็มีเรือประมงขนาดเล็ก ได้ฝืนออกไปสู้กับธรรมชาติเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเพื่อยังชีพ จนทำให้สูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน

     ด้านนายนคร  ฮวดเฮง เจ้าของกิจการเรือประมง และผู้ประกอบการประมงชายฝั่ง  กล่าวว่า ช่วงนี้บรรดาเรือประมงขนาดเล็กได้งดออกหาปลาชั่วคราวและส่วนใหญ่จะจอดเทียบท่าที่สะพานปลาในเขตเทศบาลศรีราชา ซึงตอนนี้ทำได้แค่เพียงติดตามสถานการณ์ข่าวพายุกิสนาอย่างใกล้ชิด และหากพบว่าทะเลยังมีคลื่นลมแรงก็ยังจะงดออกจากฝั่งจนกว่าเหตุการณ์จะเป็นปกติ ซึ่งในตอนนี้เรือประมงชายฝั่งก็ได้จอดเทียบท่ากันส่วนใหญ่ ขณะที่เรือประมงขนาดใหญ่ก็ทยอยกันกับเข้าาฝั่งแล้ว

2009-09-29