พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาให้บรรจุถุงยังชีพ ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยจากพายุไต้ฝุ่นกิสนา
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ นางสมถวิล ยังอยู่ ผู้ช่วยเลขานุการในพระองค์ เป็นผู้แทนพระองค์ฯในการจัด และบรรจุถุงยังชีพพระราชทานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ณ โรงเก็บเครื่องบิน ฝูงบิน 201 สนามบินอู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ ตำบลพลา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง จำนวน 3,000 ถุง โดยได้รับการสนับสนุนกำลังพลจาก ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ข้าราชการกองทัพเรือ เจ้าหน้าที่อาสากาชาด เจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขเทศบาลเมืองสัตหีบ นักเรียนจากโรงเรียนเมือง 7 และอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา รวมแล้วกว่า 250 คน ร่วมบรรจุถุงยังชีพในครั้งนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนและพระภิกษุสงฆ์ที่ได้ รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยพายุไต้ฝุ่นกิสนา ที่พัดผ่านเข้ามาทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย จนเป็นเหตุให้ทุกจังหวัดมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จนมีปริมาณน้ำท่วมไหลหลากในหลายพื้นที่ ทำให้ราษฎรทั่วทุกภูมิภาคได้รับความเดือดร้อน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงมีความห่วงใย จึงมีรับสั่งให้จัดบรรจุถุงยังชีพพระราชทาน เตรียมพร้อมไว้สำหรับให้ความช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น เพื่อเป็นการแบ่งเบาพระราชภาระในระบาทสมเด็จพรเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพรบรมราชินีนาถได้ในระดับหนึ่ง ในขณะนี้ ถุงยังชีพพระราชทานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทยส่วนหนึ่ง ได้ลำเลียงโดยกองทัพเรือไปยัง จ.อุบลราชธานี และ จ.สุรินทร์ และพร้อมที่จะมอบให้กับราษฎรผู้ประสบความเดือดร้อนในครั้งนี้ต่อไปแล้ว สำหรับไต้ฝุ่นกิสนา ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประชาชนหลายพันคนต้องอพยพ ละทิ้งบ้านเรือน หลังกระแสน้ำไหลทะลักเข้าบ่าเข้าท่วม ซึ่งน้ำท่วมในบางพื้นที่นับว่าเลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปี มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 49 คนในเวียดนาม กัมพูชาและลาว หลังพายุลูกนี้ได้คร่าชีวิตประชาชนในฟิลิปปินส์ไป 246 คนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ด้านกัมพูชามีเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า พายุกิสน่าที่พัดเข้าถล่มกัมพูชา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 คนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางของประเทศ ความรุนแรงของพายุ ยังทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายจำนวนมาก นอกจากนี้ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ก่อให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง และระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านต้องอพยพหนีน้ำท่วม ในเวียดนามเจ้าหน้าที่รายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตจากพายุกิสนาพัดถล่มเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 38 คน และมีผู้สูญหายไป 10 คน และพายุลูกนี้ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ลาว หลังอ่อนกำลังลงกลายเป็นพายุโซนร้อน ส่วนความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุกิสนาในฟิลิปปินส์ ดำเนินไปอย่างล่าช้า และหลายพื้นที่ยังจมอยู่ใต้กระแส น้ำ ขณะที่ชาวบ้านบนเกาะลูซอนเตรียมรับมือกับพายุลูกใหม่ชื่อป้าหม่า ที่กำลังก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนตัวถึงฝั่งในเร็ววันนี้ พายุลูกนี้มีความรุนแรงเป็นระดับ 2 ความเร็วลม 165 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ยังเป็นรอง พายุไต้ฝุ่นเกย์ ที่ขึ้นฝั่งในประเทศไทยเมื่อปี 2532 ที่ผ่านมา ซึ่งจัดเป็นพายุระดับ 3 พายุไต้ฝุ่นกิสนาลูกนี้ได้เปลี่ยนเส้นทางอย่างเหนือความคาดหมายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นปรกติของพายุในเขตร้อน พายุลูกนี้ ทำให้ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนักในรอบ 40 ปี คนครึ่งล้านไร้ที่อยู่อาศัย มีคนเสียชีวิตไปแล้วกว่า 200 คน และพายุลูกนี้อีกเช่นเดียวกันที่ทำให้เกิดสตอร์มเซิร์จ หรือคลื่นพายุซัดเข้าฝั่งสูงถึง 7 เมตรเลยทีเดียว นิราช ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว 2009-10-02 |