สิบล้อชน18ล้อคอหักตายคาที่ |
|
หนุ่มใหญ่ขับรถสิบล้อบรรทุกน้ำมันชนท้ายรถพ่วง18ล้อที่จอดรอด่านตรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านอยู่อัดก็อปปี้ตายคารถ
เมื่อเวลา 16.30 น.(2 ต.ค.52) ร.ต.ท.อาทิตย์ สุนทรวนิค ร้อยเวรสภ.บ่อวิน อ.ศรีราชาจ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีรถบรรทุกสิบล้อบรรทุกน้ำมันพุ่งชนท้ายรถพ่วง18ล้อที่บรรทุกถังยางมะตอย ที่จอดรอด่านตรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เรียกตรวจสอบและรถบรรทุกยางมะตอยก็ได้พุ่งชนท้ายรถสิบล้อที่บรรทุกสัปปะรดมาเต็มคันอีกคันนึงที่จอดอยู่ด้านหน้าด้วย และคนขับรถบรรทุกสิบล้อบรรทุกน้ำมันมาอัดก็อปปี้ตายคารถ ต้องให้ทางหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชาใช้เครื่องตัดถ่างนำศพออกมาโดยเหตุเกิดที่ ถนนสาย7 ตอน2 ขาเข้ากทม. หมู่ 4 ต.บึง อ.ศรีราชา ให้ไปทำการสอบสวน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา กำลังใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อนำศพคนขับรถสิบล้อบรรทุกน้ำมันออกมาจากด้านหลังพวงมาลัยรถที่อัดกระแทกติดกับตัวรถที่ยุบเข้าไปจากแรงกระแทกอย่างแรงซึ่งใช้เวลาตัดถ่างประมาณ30นาทีจึงนำศพออกมาได้ตรวจสอบทราบว่าชื่อนายวีรศักดิ์ ไชยคราม อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่2ต.นาถ่อน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยผู้ตายขับรถยนต์บรรทุกสิบล้อยี่ห้ออีซุซุหัวสีขาวหมายเลขทะเบียน 78-1243 กทม.สภาพศพนั้นถูกแรงกระแทกจนซี่โครงหักและขาหักทำให้เสียชีวิตดังกล่าว จากการสอบสวนนายรอศักดิ์ เบ็ญจลามัน อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุกสิบแปดล้อพ่วงหมายเลขทะเบียนด้านหน้า 71-1719 สงขลา ทะเบียนด้านหลัง 70-7281 สงขลา ซึ่งบรรทุกถังยางมะตอยมาเพื่อนำไปส่งที่จ.สงขลา ได้ให้การว่ามีรถบรรทุกสิบล้ออีกคันซึ่งจอดอยู่ด้านหน้าบรรทุกสัปปะรดมาเต็มคันรถ โดยที่จอดห่างกันประมาณ3-4 เมตร เพื่อรอรับการตรวจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งตั้งด่านตรวจห่างออกไปประมาณ 500 เมตรโดยมีรถบรรทุกจอดกันยาว และรถคันหลังที่ผู้ตายขับตามมาก็ได้วิ่งพุ่งชนท้ายรถตนเองอย่างแรงโดยไม่ได้เบรคจนทำให้อัดก็อปปี้ตายคารถดังกล่าวซึ่งหลังจากนั้นด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เรียกตรวจอยู่พอเกิดเหตุรถชนจนมีผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้หายไปยกด่านตรวจหนีไปเลยโดยที่ไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดที่ใดเพราะไม่ใช่คนพื้นที่ และนายทวีศักดิ์ แก้ว อายุ 42 ปีคนขับรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อมิตซูบิชิหัวสีขาวหมายเลขทะเบียน 70-4942 นครปฐมบรรทุกสัปปะรดมาและจอดอยู่คนแรกได้ให้การว่าขับรถมาจากพื้นที่เขาคันทรงเพื่อจะไปที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ และได้มีตำรวจตั้งด่านเรียกตรวจอยู่ด้านหน้าโดยที่มีรถจอดเข้าคิวยาวอยู่หลายสิบคันโดยที่มองไม่รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดไหน ซึ่งขณะที่จอดรออยู่ก็มีรถวิ่งมาชนท้ายเมื่อลงไปดูก็พบว่าคนขับรถบรรทุกน้ำมันเสียชีวิตคาที่แล้วดังกล่าวซึ่งหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านอยู่ก็หายไปกันหมดโดยไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานไหนเนื่องจากไม่ค่อยรู้จักพื้นที่ ซึ่งเพื่อนๆผู้ตายที่ขับรถยนต์บรรทุกน้ำมันตามกันมากล่าวว่าผู้ตายได้ไปรับน้ำมันดีเซลมาจากจ.ระยองเพื่อนำไปส่งที่อ.พานทอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าผู้ตายคงขับรถมาด้วยความเร็วสูงและมองไม่เห็นรถที่เข้าแถวรับการตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านอยู่จึงได้พุ่งชนท้ายรถที่จอดรอการตรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวจนเสียชีวิต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบว่าเป็นหน่วยงานไหนมาตั้งด่านตรวจต่อไปส่วนศพผู้เสียชีวิตได้ให้หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชานำส่งโรงพยาบาลอ่าวอุดมเพื่อให้แพทย์ชันสูตรต่อไป 2009-10-03 |