บ.ท็อป เอสพีพี จัดประชุมแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก |
|
บริษัท ท็อป เอสพีพี จำกัด ในกลุ่มไทยออยล์ จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 ในการจัดทำร่างรายงานและมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (ส่วนขยายครั้งที่ 1)
วันที่ 27 ก.พ.63 คุณธานี เกียรติพิพัฒนกุล รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง รองนายกเทศบาลนครแหลมฉบัง คุณสิริมา จิรกิจธนา ปลัดอำเภอศรีราชา และคุณวิโรจน์ มีนะพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านกำกับองค์กรและกิจการสัมพันธ์ ร่วมเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 ต่อการจัดทำร่างรายงานและมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (ส่วนขยาย ครั้งที่ 1) ของบริษัท ท็อป เอสพีพี จำกัด ณ ศาลาประชาคมอ่าวอุดม จังหวัดชลบุรี คุณวิโรจน์ มีนะพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านกำกับองค์กรและกิจการสัมพันธ์ กล่าวว่า ปัจจุบันโครงการเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ซึ่งรับก๊าซจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 246.4 เมกะวัตต์ โครงการมีแนวคิดขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 386.4 เมกะวัตต์ (เพิ่มขึ้น 140 เมกะวัตต์) เพื่อรองรับการพัฒนาในกลุ่มไทยออยล์ ลูกค้าผู้รับซื้อไฟฟ้าของโครงการขยาย คือ กลุ่มอุตสาหกรรมในไทยออยล์เท่านั้น ไม่ขายให้ กฟผ. โดยติดตั้งเครื่องจักรกังหันก๊าซขนาด 60 เมกะวัตต์ จำนวน 2 ชุด และโอนย้ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบกังหันไอน้ำ ขนาด 20 เมกะวัตต์ จำนวน 1 ชุด จากบริษัท ไทยออยล์ เพาเวอร์ จำกัด เพื่อเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันก๊าซหลักในโครงการ เพื่อให้การดำเนินการสอดคล้องกับความเป็นอยู่และความต้องการของประชาชน จึงได้ประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย ครั้งที่ 2 ต่อการจัดทำร่างรายงานและมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (ส่วนขยายครั้งที่ 1) ในนามของบริษัท ท็อป เอสพีพี จำกัด ในครั้งนี้ โดยทางบริษัทฯ ได้มอบหมายให้ บริษัท คอนซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี จำกัด เป็นผู้ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและดำเนินการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อนำเสนอร่างรายงานและมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการฯ ให้แก่สาธารณชนได้รับทราบ และรับฟังข้อคิดเห็น ข้อวิตกกังวล และข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อที่คณะผู้ศึกษาจะได้นำข้อมูลกลับมาประกอบการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วนรอบด้าน จัดทำเป็นรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อนำส่งสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือ สผ. พิจารณาตามลำดับขั้นตอนต่อไป
|