ภาพเหตุการณ์ตื่นเต้นที่ประชาชนถ่ายคลิปพายุหมุนซัดป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ล้มทับรถเทรนเลอร์และรถกระบะที่จอดอยู่ข้างถนนได้รับความเสียหาย ส่วนคนขับรถเทรนเลอร์นั่งกินข้าวรองานอยู่ในรถ ตกใจกระโดดหลบไปที่นั่งด้านข้าง รอดจากการบาดเจ็บหวุดหวิด

     เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันนี้ ( 13 เม.ย. ) มีผู้ใช้ เฟซบุ๊ก ชื่อ  Jirapat Patasrimaneekul ได้บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะเกิดลมพายุหมุนลูกใหญ่พัดหมุนข้ามถนนขณะที่มีรถยนต์และรถจักรยานยนต์สัญจรผ่านไปมา จนเป็นเหตุให้ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ล้มลงทับรถบรรทุกเทรนเลอร์และรถยนต์กระบะได้รับความเสียหาย ที่บริเวณถนนสานปิ่นทอง 1 ข้างที่ทำการเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ
     ในที่เกิดเหตุพบป้ายขนาด 4x8 เมตร โคนเสาปูน 4 ต้นหักงอจนเหล็กเส้นโผล่ ตัวป้ายโฆษณาหักล้มทับรถเทรนเลอร์ หมายเลขทะเบียน 71 6632 สระบุรี และรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมค สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ผษ 6184 นครราชสีมา ได้รับความเสียหาย โดยมี นายสุนทร หาญนา อายุ 38 ปี เป็นคนขับรถเทรนเลอร์และเจ้าของรถกระบะที่ได้รับความเสียหาย ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่อยู่
     โดยนายสุนทร หาญนา เปิดเผยว่า ขณะที่ตนเองนั่งรอรับงานอยู่บนรถเทรนเลอร์ในบริเวณที่เกิดเหตุ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทราบว่าแต่ฝนตก ก็ได้เห็นลมหมุนพัดมา แล้วรถมันโยก โดยตนเองก็ไม่รู้สึกอะไร จนได้ยินเสียงดังเปรี๊ยะบริเวณป้ายโฆษณาที่อยู่ข้างรถ จนป้ายโฆษณาหักล้มลงมาทับรถ ตนเองจึงกระโดดไปหมอบอยู่ที่นั่งข้างคนขับ แล้วป้ายก็ล้มมาทับรถเทรนเลอร์และรถกระบะที่จอดอยู่ข้างกันได้รับความเสียหาย ตอนนั้นตนเองรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก หลังจากพายสงบก็หาทางออก ลงมาดูรถก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ ซึ่งตนเองไม่คิดว่าลมจะมาแรงขนาดนี้
     ด้านนายอรัญ คุณทะวงษ์ อายุ 50 ปี คนถ่ายคลิปได้อีกคลิปหนึ่งเปิดเผยว่า ตนเองนั่งอยู่บนรถเทรนเลอร์อีกคันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามรถคันเกิดเหตุ ได้เห็นลมหมุนมาแต่ไกล จึงได้หยิบโทรศัพท์บันทึกภาพไว้เล่น ๆ พอมาใกล้รถไม่คิดว่าจะมีความแรงมากขนาดนี้ จึงรีบปิดกระจก ก่อนจะเห็นพายุหมุนไปพัดป้ายโฆษณาหักล้มทับรถเทรนเลอร์อีกคัน  ตนเองไม่คิดว่าจะมีคนอยู่ในรถเทรนเลอร์คันเกิดเหตุด้วย จึงวิ่งมาดูและช่วยเหลือ ซึ่งตั้งแต่เกิดมาเคยเห็นแต่ลูกเล็ก ๆ ไม่เคยเห็นลมหมุนลูกใหญ่ขนาดนี้เลย ขนาดรถเทรนเลอร์ที่จอดอยู่นิ่ง ๆ ยังขยับเคลื่อนที่ไปกว่าสองวา
     ซึ่งหลังจากนี้ผู้เสียหายจะเดินทางไปลงบันทึกประจำวัน ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ประกันภัยให้มาตรวจสอบ ก่อนดำเนินการตามกระบวนกฎหมายต่อไป