|
สองมือปราบตู้ยามแสมสาร กวาดล้างรถผีระบาดเกลื่อนตำบล จ๊อกกี้หนีกระเจิงได้รถจย.กว่า 10 คัน 
สองดาบตำรวจมือปราบตู้ยามแสมสาร จับ 1 ในแก๊งลักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในเขตเมืองพัทยา ขึ้นแท่นสอบสวน ขยายผลล่ากลุ่มวัยรุ่น และผู้ค้าส่งอาหารทะเล ลูกค้ารับซื้อรถผีกว่า 50 ราย ในพื้นที่ตำบลแสมสาร เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.00 น. ของวันนี้ ( 17 ต.ค. 52 ) พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เชษฐา กีชวรรณ์ รอง ผกก.(ปป.) พ.ต.ท.ดำรงค์ อ้วนสูงเนิน สวป. พร้อมด้วย ด.ต.รวยทรัพย์ รักอิสระ หัวหน้าตู้ยามตำบลแสมสาร และ ด.ต.ธวัชชัย ทับทิม จนท.ประจำตู้ยามฯ ทำการปิดล้อมและออกกวาดล้างพื้นที่เป้าหมายกว่า 20 จุด หลังสืบทราบว่ามีรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาขายให้กับกลุ่มวัยรุ่น และผู้ประกอบการค้าส่ง ในพื้นที่ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จำนวนมาก จากการตรวจสอบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ทำให้กลุ่มที่ซื้อรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาขับขี่ ต่างนำรถมาจอดทิ้งในตลาดแสมสาร และบนถนนตามเส้นทางต่าง ๆ สามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์จำนวนทั้งสิ้น 13 คัน เป็นจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 จำนวน 6 คัน รุ่นเวฟ 100 จำนวน 4 คัน รุ่นคลิก จำนวน 1 คัน และยามาฮ่า รุ่นมีโอ จำนวน 2 คัน ทุกคันไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และสามารถจับกุมผู้ครอบครองรถจักรยานยนต์ได้จำนวน 3 ราย ซึ่งล้วนเป็นเยาวชนทั้งสิ้น พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ เปิดเผยว่า หลังจากที่ตู้ยามแสมสารได้มีการจับกุม นายหนุ่ม ( นามสมมุติ ) อายุ 17 ปี 1 ในแก๊งลักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในเขตเมืองพัทยา เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา จากการสอบสวนขยายผล โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับพวก ลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่เมืองพัทยา และอำเภอสัตหีบ มาแล้วเกือบ 50 คัน โดยรถจักรยานยนต์เกือบทั้งหมด จะถูกนำเข้ามาในตำบลแสมสาร เพื่อขายให้กับกลุ่มวัยรุ่น และผู้ประกอบการค้าส่ง ในราคาคันละ 3,000 – 4,000 บาท และยังกล่าวอีกว่า ในพื้นที่ตำบลแสมสาร มีผู้ประกอบการอาหารทะเลจำนวนมาก ทำให้ต้องใช้รถยนต์ในการขนส่ง ผู้ประกอบการบางรายสู้ราคาน้ำมันที่มีราคาสูงไม่ไหว จึงหันมาซื้อรถจักรยานยนต์ จากแก๊งลักรถจักรยานยนต์ เพื่อนำมาดัดแปลงเป็นรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ใช้ในการขนส่งสินค้า ทำให้สามารถลดต้นทุนไปได้อย่างมาก ด้วยเหตุนี้ ทำให้มีรถผีเข้ามาระบาดอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ ล่าสุด ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ ทำการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย หากไม่มีหลักฐาน จะทำการตรวจยึด พร้อมดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ ในข้อหารับซื้อของโจร ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดมาได้ทั้ง 13 คัน ขณะนี้ได้ทำการตรวจสอบหมายเลขตัวรถ เพื่อทำการติดตามหาตัวเจ้าของรถต่อไป นิราช ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว 2009-10-18 
|
