พระเพลิงเผาห้องอบซาวน์น่าโรงแรมหรู “แฟร์เท็กซ์” นักท่องเที่ยวไทย-เทศนับร้อยแตกตื่นหนีตายอลหม่าน
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 18 ต.ค.52 พ.ต.ท.ภูมิพัฒน์ นามพุทธา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากพนักงานโรงแรม “แฟร์เท็กซ์ สปอร์ตคลับ แอนด์ โฮเทล” เลขที่ 197/201 ริมถนนพัทยาเหนือ ใกล้เคียงวงเวียนปลาโลมา ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุธรรม ชาวศรีทอง รอง ผกก.ปป. นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเมืองพัทยา พร้อมรถน้ำดับเพลิงกว่า 10 คัน รถอุปกรณ์ผจญเพลิง รวมถึงรถพยาบาลจาก รพ.พัทยาบางละมุง, รพ.พัทยาเมโมเรียล และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา อีกกว่า 20 คัน รีบรุดเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุด้านหน้าเปิดเป็นโรงแรมสุดหรูระดับ 5 ดาว สูง 3 ชั้น ด้านในเป็นพื้นที่สปอร์ตคลับแบบครบวงจร ส่วนต้นเพลิงพบว่าเกิดจากห้องอบซาวน์น่าบริเวณชั้น 1 ซึ่งอยู่ด้านหลัง มีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาอย่างหนาตา นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เข้าพักและไปใช้บริการสปอร์ตคลับ รวมถึงพนักงานกว่า 200 คน วิ่งหนีตายกันออกมาจากโรงแรมจนทำเกิดความอลหม่านสับสน ขณะที่นักผจญเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้รีบเข้าตรวจสอบหาผู้ตกค้างในโรงแรม และพบมีชาวไทยและต่างชาติ 10 คน ได้รับบาดเจ็บสำลักควันเล็กน้อย จึงทำการปฐมพยาบาลให้ในเบื้องต้น ซึ่ง จนท.ใช้เวลาระดมกันฉีดน้ำที่ห้องต้นเพลิงอยู่ประมาณ 1 ชม. เพลิงจึงสงบ ตรวจสอบในห้องอบซาวน์น่าพบว่าถูกพระเพลิงเผาผลาญจนได้รับความเสียหายทั้งหมด มูลค่าความเสียหายยังไม่ได้ประเมิน สอบปากคำ น.ส.สรญา พาพิมพ์ อายุ 24 ปี พนักงานรีเซฟชั่นสปอร์ตคลับ อยู่บ้านเลขที่ 66/4 ม.1 ต.โป่งน้ำร้อน อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะตนทำหน้าที่อยู่บริเวณเค้าเตอร์หน้าห้องอบซาวน์น่า ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีลูกค้าใช้บริการอยู่ด้านใน กระทั่งมีลูกค้าชาวต่างชาติคนหนึ่งเข้ามาใช้บริการ เมื่อลูกค้าคนดังกล่าวเปิดประตูเข้าไปในห้องล็อคเกอร์ชาย จึงพบกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจำนวนมากและรีบวิ่งมาบอกให้ตนรู้ ก่อนโทรศัพท์แจ้งให้ตำรวจทราบดังกล่าว นายปัญญา ลาภยิ่ง อายุ 22 ปี พนักงานเบลบอย ให้การว่า ปัจจุบันโรงแรมมีห้องให้พักทั้งหมด 113 ห้อง ซึ่งในวันนี้มีลูกค้ามาพักประมาณ 70 เปอร์เซ็น นอกนั้นเป็นลูกค้าที่มาใช้บริการในสปอร์ตคลับ โดยในขณะเกิดเหตุมีลูกค้าบางส่วนออกไปรับประทานอาหารและท่องราตรี จึงทำให้มีผู้ที่อยู่ในห้องพักไม่มากนัก ด้าน พ.ต.ท.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ รอง ผกก.สส. เปิดเผยว่า สำหรับสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ยังไม่ค่อยแน่ชัด แต่จากการสอบปากคำ น.ส.สรญา อย่างละเอียด ยังทราบอีกว่าก่อนเกิดเหตุประมาณ 30 นาที ได้มีลูกค้าชาวต่างชาติคนหนึ่งเข้ามาใช้บริการและเปิดๆ ปิดๆ เครื่องปรับอุณหภูมิในห้องซาวน์น่าเล่น อาจจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม คงต้องรอเจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 13 จ.ชลบุรี เดินทางมาตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในขณะเกิดเหตุ นายบรรจง บุศราคัมวงษ์ เสี่ยเจ้าของโรงแรมฯ และนายเปรม บุศราคัมวงษ์ บุตรชายหัวแก้วหัวแหวน ไม่ได้อยู่ในโรงแรมแต่อย่างใด และทราบจากพนักงานว่าได้เดินทางไปทำธุระที่ กทม นิราช ทิพย์ศรี ภาพ / ข่าว 2009-10-19 |