ท่าเรือแหลมฉบัง เร่งพัฒนา SRTO หวังลดปัญหาการจราจร |
|
ท่าเรือแหลมฉบัง เร่งพัฒนา SRTO หวังลดปัญหาการจราจร คาดหากอุปกรณ์ครบสมบูรณ์ตามแผนจะสามารถขนส่งตู้สินค้าให้เป็นไปตามเป้าที่วาง 360,000 TEU ในปี 2564
นายพิสิษฐ์ วงษ์ตางตา พนักงานการสินค้า 12 สำนักปฏิบัติการ ศูนย์การขนส่งสินค้าทางรถไฟ ท่าเรือแหลมฉบัง เผย ถึงขอบเขตหน้าที่ของศูนย์ฯ ดังกล่าว หลังได้รับมอบหมายจากผู้บริหาร ให้มาช่วยปรับปรุงดูแลเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในเครื่องมือที่จำกัด เพื่อสนองการทำงาน จึงต้องมีการวางแผนและประชุมในทีมงาน เช่น รถไฟ ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ และเจ้าหน้าที่ท่าเรือ อย่างต่อเนื่องสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น สำหรับศูนย์กลางขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ หรือ SRTO นั้น เป็นนโยบายของรัฐ เพื่อให้เปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากทางรถยนต์ มาเป็นทางน้ำและทางราง ซึ่งที่ผ่านมา ภายในท่าเรือท่าเรือแหลมฉบัง และพื้นที่โดยรอบ มีปัญหาด้านการจราจร เนื่องจากมีรถเทรลเลอร์จำนวนมาก บรรทุกตู้และรับตู้ ทำการการจราจรติดขัดจึงได้มีโครงการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว ขึ้นซึ่งหากมีทางรางรถไฟมาเสริม การขนส่งทางบก หรือทางรถยนต์ ก็จะลดจำนวนลดไป เพราะขบวนรถไฟนั้น จะมีแคร่จำนวน 32 แคร่ หากเป็นตู้ขนาด 40 ฟุต จะได้บรรทุกได้ จำนวน 32 ตู้ จะทำให้ลดจำนวนรถยนต์ไปถึง 32 คัน และหากเป็นตู้ขนาด 20 ฟุต ก็จะบรรทุกได้ 64 ตู้ ก็จะลดรถยนต์ไปถึง 64 คัน โดยในแต่ละวันจะเข้า-ออกประมาณ 24 - 30 ขบวน ซึ่งจะช่วยในด้านการจราจรและลดรายจ่ายในการซ่อมถนนอีกด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายในการใช้บริการทางรางนั้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก จะลดค่าใช้จ่ายไปอีกเป็นจำนวนมาก เพราะค่ายานพาหนะผ่านทาง โดยรถยนต์คันละ 100 บาท แต่รถไฟเพียง 35 บาทเท่านั้น ค่ายกตู้สินค้า คิดในอัตรา 365 บาท ซึ่งก็จะถูกกว่าทางรถยนต์ นายพิชิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับ ศูนย์กลางขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ นั้น ปัจจุบันอุปกรณ์เครื่องมือยังมีไม่เต็มที่ เช่น RMG มี 2 ตัว ที่ค่อมอยู่ 6 ราง และ RTG 1 ตัว จะยกตู้เปล่าเก็บ แต่ในอนาคตมีโครงการจะซื้อ RMG อีก 2 ตัว และ RTG อีก 4 ตัว และจะซ่อม RTG อีก 3 ตัว ที่ชำรุดอยู่ ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้างจากพัสดุ ซึ่งหากได้เครื่องมือครบจำนวนดังกล่าวแล้ว คาดว่าตู้สินค้าน่าจะเพิ่มขึ้น และเป็นไปตามเป้าไว้ที่ 360,000 TEU ต่อปี สำหรับปีนี้ ขณะนี้ได้ไปแล้ว 280,000 TEU อย่างไรก็ตามปัจจุบัน ผู้ประกอบการสินค้าขาเข้า ไปไอซีดี ลาดกระบัง เริ่มให้ความสนใจจองแคร่รถไฟเพิ่มขึ้น เพราะรถยนต์บางครั้งรับตู้ลำบาก หากไปทางรถไฟเป็นขบวนง่ายและสะดวก นอกจากรับตู้สินค้าจากไอซีดี ลาดกระบังแล้ว และยังมีตู้มาจากสายภาคตะวันออก จากมาบตาพุด จ.ระยอง แต่ไม่ได้มาที่ศูนย์ SRTO แหลมฉบังในช่วง แต่เมื่อท่าเรือแหลมฉบังมีเครื่องมือพร้อม ก็จะรับในทุกๆเส้นทาง ทั้งสายภาคตะวันออก และ สายอีสาน นายพิชิษฐ์ กล่าวอีกว่า ท่าเรือแหลมฉบัง ขอเชิญชวนผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกสินค้าทุกๆราย มาทดลองใช้การขนส่งทางรถไฟ เนื่องจากระยะเวลาจะไม่แตกต่างจากรถยนต์มากนัก และยังสามารถ ขนส่งได้ครั้งละจำนวนมากเป็นการประหยัดต้นทุนในการขนส่ง ที่สำคัญยังจะช่วยประเทศชาติประหยัดพลังงานนำมันอีกด้วย |