“น้องมินท์” พร้อม พล.ต.ท.พงศพัศ  เดินทางมาเคารพศพ แม่สุนันท์ –น้องโช  ที่วัดอ่างศิลา ชลบุรี โดยมีญาติพี่น้องร่วมงานอย่างบางตา

          วันนี้ (20 ต.ค. 2552) ที่ศาลา 2  วัดอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี  เด็กหญิงพิชยา  หรือ น้องมินท์  อายุ  13  ปี  บุตรสาวคนโตของนางสุนันท์  ศรีสุวรรณ  ได้เดินทางมาเคารพศพมารดา และน้องโช  พร้อมด้วย พล.ต.ท.พงศพัศ   พงษ์เจริญ   โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ซึ่งเป็นประธานในพิธีสวดศพในวันนี้  พร้อมผู้ติดตามและคณะแพทย์จากโรงพยาบาลพระรามเก้า ที่ดูแลอาการน้องมินท์  โดยมีญาติและประชาชนที่ทราบข่าว ได้เดินทางมาร่วมงาน

          ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ   กล่าวว่า  การเดินทางมาเคารพศพ แม่สุนันท์และน้องโชในครั้งนี้  เป็นความประสงค์ของน้องมินท์ เอง ที่ต้องการมาเคารพศพทั้ง 2 คน ที่ตั้งบำเพ็ญกุศล  ซึ่งทางคณะแพทย์เห็นว่า  บาดแผลและสภาพจิตใจของน้องมินท์เริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงอนุญาตให้เดินทางมาดังกล่าว

          สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น  ทางเจ้าหน้าที่ไม่สบายใจ ที่เห็นเด็กเป็นเหยื่อ และเป็นคดีอุกฉกรรจ์ แต่อย่างไรก็ตามสำนวนการสอบสวนจะแล้วเสร็จภายในวันศุกร์นี้อย่างแน่นอน และหลักจากนั้นก็จะดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของน้องมินท์ต่อไป ในเรื่องทรัพย์สินของแม่

          นายแพทย์วิทยา  วันเพ็ญ  นายแพทย์จากโรงพยาบาลพระรามเก้า  กล่าวถึง อาการน้องมินท์ในขณะนี้ อาการบาดเจ็บดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลักเข้ามาทำการรักษาที่โรงพยาบาล โดยมีแพทย์และพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ อาจจะออกจากโรงพยาบาลได้ 

          หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทางโรงพยาบาลก็จะเข้าติดตามต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อให้แน่ใจว่า ทุกๆอย่างสมบูรณ์ดี ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ  ส่วนในวันเผาศพแม่และน้องนั้น ซึ่งเรื่องนี้ทางคณะแพทย์จะต้องปรึกษาอีกครั้ง ว่าจะให้มาร่วมพิธีหรือไม่อย่างไร

          ด้านนายสมพงษ์ หรือ ชยุต   กล่าวว่า  สำหรับในวันเผานั้น ตนต้องการให้น้องมินท์มาร่วมงาน เพราะเป็นวันสุดท้าย และหลังจากนั้นตนก็จะรับไปอยู่ด้วยกันที่เชียงใหม่ และส่งเสียให้เรียนโรงเรียนนานาชาติต่อไป

          สำหรับน้องมินท์นั้น  ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงบาดแผล ซึ่งได้รับคำตอบว่า บาดแผลดีขึ้นมาก จากนั้นก็พูดคุยกับผู้สื่อข่าวอีกหลายคำ โดยเฉพาะเรื่องการวาดรูปซึ่งน้องมินท์ชอบวาดรูปมาก โดยวาดภาพมาตั้งแต่อยู่อนุบาล  นอกจากนั้นผู้สื่อข่าวยังสอบถามถึงการพูด โดยสามารถพูดได้ถึง 3 ภาษา คือ ญี่ปุ่น อังกฤษ และภาษาไทย

พร้อมทั้งยังบอกอีกว่าโตขึ้นอยากเป็นหมอ และก่อนกลับได้เลี้ยงน้อง ด.ช.จตุรวิชญ์ จงงามวิไล  อายุ 7 ขวบ ซึ่งเป็นน้องที่เกิดกับภรรยาใหม่ของพ่อ โดยไม่ได้พบกันมานานถึง 5  ปีแล้ว  โดยบอกว่าทำตัวให้ดีนะ อย่าดื้อกับคุณพ่อ หลังจากนั้นก็เดินทางกลับ กทม.

          สำหรับการสวดอภิธรรมศพคืนแรก  ทางเจ้าภาพได้ทำอาหาร เป็นข้าวต้มทะเล  เลี้ยงแขกที่มาร่วมงานศพ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา เนื่องจากมีเพียงญาติพี่น้องเท่านั้นที่มาช่วยงาน หลังจากคณะของน้องมินท์และ พล.ต.ท.พงศพัศ และแพทย์กลับ

2009-10-21