หนุ่มกัมพูชาซิ่ง จยย. แหกโค้งชนรั้วหนามไฟลุกท่วม ชาวบ้านช่วยลากออกมาทัน |
|
หนุ่มกัมพูชาซิ่งรถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็ว เกิดเสียหลักแหกโค้งชยรั้วลวดหนามดังสนั่น ล้มกองลงข้างรถไฟลุกท่วม ชาวบ้านเห็นลากหนุ่มกัมพูชาที่หมดสติออกมาจากรถได้ทันหวุดหวิด เกือบถูกย่างสด ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.วันนี้ ( 30 ธ.ค. ) ศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ เกิดไฟลุกไหม้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหมดสติอยู่บนพื้นผิวจราจร ที่บริเวณเส้นศรีราชา-หนองค้อ ซอย 14 (หลังวัดจีน) หมู่ 7 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงประสานรถดับเพลิงจากกองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ เข้าร่วมพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา เข้าตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้รถจักรยานยนต์ไม่ทราบชนิด ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จนไหม้วอดไปหมดทั้งคัน โดยเพลิงได้ลุกลามไปติดกับกองหญ้าที่อยู่ข้างทางขนไฟลุกไหม้เป็นวงกว้าง พลเมืองดีต้องนำสายยางมาฉีดน้ำเพื่อป้องกันการลุกลามของเปลวเพลิงในเบื้องต้นก่อนที่รถดับเพลิงจะมาถึง และใช้น้ำดับไฟไปได้อย่างรวดเร็วจนเพลิงสงบ และพบว่ารถจักรยานยนต์ถูกเพลิงไหม้วอดไปหมดทั้งคันจนไม่ทราบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้ออะไร ใกล้กันพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย ไม่ทราบชื่อเป็นชาวกัมพูชา อายุ 22 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะเป็นแผลแตก ใบหน้า ลำตัว และแขนขา เป็นแผลถลอกตามร่างกาย พูดจาไม่รู้เรื่อง มีอาการมึนงง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา จึงช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลแหลมฉบังอย่างเร่งด่วน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นจาก นางสาวนิตยา ใยทองคำ อายุ 61 ปี เปิดเผยว่า ขณะกำลังทำอาหารอยู่ในร้าน รถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุได้ขี่มาด้วยความเร็ว แล้วเกิดแหกโค้งไปชนกับเสาขึงลวดหนามของบ้านฝั่งตรงข้ามอย่างแรง จนคนขี่กระเด็นตกลงมาหมดสติอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ จึงได้บอกให้พนักงานไปช่วยอุ้มมานอนพักในที่ที่ปลอดภัย ซึ่งผู้บาดเจ็บยังไม่ได้สติ ขณะกำลังจะดึงร่างผู้ได้รับบาดเจ็บออกมานั้น ได้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นบริเวณห้องเครื่องรถจักรยานยนต์และไฟลุกขึ้นมาทันที แต่โชคดีที่พนักงานได้ดึงร่างผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาได้ทันจึงไม่ถูกไฟคลอกตามร่างกาย ซึ่งถ้าไปดึงไม่ทันอาจจะถูกไฟคลอกเสียชีวิตก็เป็นไปได้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบและสอบสวนพยานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะนำซากรถไปเก็บรักษาไว้ที่สถานีตำรวจเพื่อรอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวและมาสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป |