ตร. เก่ง 24 ชม. ตามจับคนร้ายจี้ชิงทองโรงรับจำนำ |
|
ตำรวจชุดสืบสวนเก่ง 24 ชั่วโมงจับคนร้ายจี้ชิงสร้องทองโรงรับจำนำแม่วรรณี นาพร้าวสำเร็จ ก่อนนำตัวผู้ต้องหา มาทำแผนประกอบคำสารภาพที่เกิดเหตุและห้องพัก สารภาพติดหนี้พี่สาวที่ยืมเงินไปแต่งเมียกับติดพนันออนไลน์
จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมหมวกกันน็อคสีฟ้าปิดบังใบหน้า ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดริมถนนหน้าโรงรับจำนำแห่งหนึ่ง หมู่ 5 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แล้วเดินเข้าไปในโรงรับจำนำ ใช้อาวุธมีด ข่มขู่ผู้ดูแลร้านแล้วใช้ค้อนทุบตู้กระจกที่เก็บทอง ก่อนจะนำสร้อยคอทองคำ จำนวน 5 เส้น น้ำหนักรวม 13 บาท มูลค่าประมาณ 3 แสนกว่าบาท ก่อนจะขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 31 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 และชุดสืบสวน ร่วมกับ สภ.ศรีราชา และ ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางของคนร้ายทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุอย่างละเอียด พบว่าทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีเข้าไปภายในซอยศรีราชา-หนองค้อ 93/2 ม.6 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงตรวจสอบภายในซอยดังกล่าว ก็พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงินดำ หมายเลขทะเบียน 2 กภ - 4961 ชลบุรี ซึ่งตรงกับรถที่ก่อเหตุ จอดอยู่หน้าห้องเช่าแห่งหนึ่งพบร่องรอยการถอดแผ่นป้ายทะเบียน จึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบบ นายพงษ์พันธ์ หรือเปิ้ล อายุ 42 ปี ชาว จ.สกลนคร อยู่ห้องพักดังกล่าว จากการสอบถามนายพงษ์พันธ์ ได้ให้การวกวนและท่าทางมีพิรุธจนเจ้าหน้าที่เน้นสอบ กระทั่งต่อมาก็รับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ดังกล่าวจริง และนำตำรวจไปตรวจยึดของกลางที่ใช้กระทำความผิดทั้งหมด ให้การยอมรับว่าหลังก่อเหตุแล้วได้นำทองบางส่วนไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ต.หนองขาม อ.ศรีราชา พอได้เงินมา จำนวน 53,000 บาท ก็มาใช้จ่ายจนหมด เหลือแค่ทองหนัก 2 บาท เพียง 1 เส้น ที่ทางจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ ส่วนสร้อยทองที่เหลือคนร้ายอ้างว่าทำหล่นหายระหว่างทาง ส่วนมูลเหตุแห่งการก่อเหตุครั้งนี้ ก็เนื่องจากติดหนี้เพื่อน 9,000 บาท ยืมเงินพี่สาวมาแต่งเมียได้ 1 เดือน รวมทั้งติดพนันออนไลน์ ก่อนจะตัดสินใจก่อเหตุ และสุดท้ายก็ไปไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ตามมารวบคาห้องพักดังกล่าว โดยล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 ก.พ. 65 ทาง พ.ต.อ.ศักดิ์ชาย สุวรรณนุกูล ผกก.สภ.ศรีราชา ก็ได้นำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยพฤติการณ์ของคนร้ายคือนั่งถอดป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์หน้าห้อง ก่อนออกจากห้องพักไปขอยืมค้อนที่ร้านค้าหน้าห้องพักที่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร ก่อนเดินเข้าไปในร้านแล้วชักมีดข่มขู่พนักงานสาวที่นั่งอยู่ในร้านสองคน แล้วหันไปทุบกระจกก่อนหยิบทองไปทั้งสิ้น 11 บาท เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 3 เส้น สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 2 เส้น แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ตรงดิ่งไปที่ห้องพักก่อนนำทะเบียนมาติดให้เหมือดเดิม แล้วขี่รถจักรยานยนต์ไม่รับภรรยาในที่ทำงานใกล้ ๆ ห้องพัก แล้วกลับมาที่ห้องก่อนออกไปเอาสร้อยทองหนัก 2 บาท ไปขาย แล้วกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด โดยดำเนินคดีข้อหา ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธโดยทำอันตรายต่อสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ โดยทำด้วยประการอื่นเพื่อให้เห็นหรือจำหน้าไม่ได้โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือพ้นการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
|