เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินเซ็ง เตรียมออกไปทำงาน รถจักรยานยนต์คู่ใจจอดหน้าบ้านหายวับ

     เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลดังศรีราชา สุดเซ็ง ตื่นเช้ามาเตรียมออกไปทำงานคว้ากุญแจรถจักรยานยนต์เปิดบ้าน แทบหงายหลังตึง รถจักรยานยนต์คู่ใจที่จอดไว้หน้าบ้าน อันตรทานหายไปอย่างไร้ร่องรอย แม้ล็อคคอล็อคล้อป้องกันอย่างดีแล้ว คาดคนร้ายน่าจะมากันเป็นแก๊ง ก่อนยกรถหายไป ตำรวจเตรียมไล่กล้องวงจรปิดไล่ล่าคนร้ายอย่างเร่งด่วนแล้ว
     เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น.วันนี้ ( 17 มิ.ย.65) พ.ต.ต.เฉลิมเกียรติ ปิ่นประเสริฐ สารวัตร (สอบสวน) สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจาก นายนฤเบส เพ็ชรบุรี อายุ 27 ปี อาชีพเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยพยาบาลห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลดังเมืองศรีราชา ได้เข้าแจ้งความว่า รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 ไอ สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน จบต 65 ชลบุรี ที่จอดไว้หน้าบ้านพักเลขที่ 372/106 หมู่ 8 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนทำการลักทรัพย์หายไป ในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา จึงมาแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
     นายนฤเบส เพ็ชรบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนเองเลิกงานกลับมาบ้านในเวลาประมาณ 23.00 น.เอารถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน จบต 65 ชลบุรี  มาจอดหน้าบ้านแล้วก็ขึ้นไปนอนพักผ่อน พอช่วงเช้าเตรียมไปทำงาน เปิดบ้านออกมาดูแข้งขาก็แทบจะหมดเรี่ยวหมดแรง เมื่อมองดูไม่พบรถจักรยานยนต์ของตนเองแล้ว โดยรถคันนี้ตนเองจะต้องขับขี่ออกไปทำงานทุกวัน แต่ต้องมาถูกคนร้ายลักเอาไป ก็อยากจะฝากถึงคนร้ายว่า ตนเองก็เป็นคนทำมาหากิน หาเช้ากินค่ำเหมือนกัน แล้วยิ่งช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ด้วย ก็รู้สึกแย่ รถคันนี้ตนเองใช้มานานตั้งแต่ยังเรียนอยู่เลย  แม้ตนเองจะระมัดระวังแล้วโดยจอดรถไว้หน้าบ้านตนเอง รวมทั้งล็อคคอรถ ปิดเบ้ากุญแจและจอดไว้หน้าบ้านเราเอง ก็ไม่คิดว่าคนร้ายจะมาก่อเหตุลักไป ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เนื่องจากในช่วงนี้มีการลักรถจักรยานยนต์หลายครั้งแล้ว
     จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่าที่เกิดเหตุอยู่ริมถนน มีรถจอดอยู่หน้าบ้านหลายคัน ทั้งรถจักรยานยนต์และรถกระบะ ซึ่งในที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดโดยรอบอยู่หลายจุด แต่จุดเกิดเหตุยังไม่พบว่ามีกล้องวงจรปิดที่จะบันทึกภาพพฤติกรรมของคนร้ายได้ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะมากันมากกว่า 1 คน และอาจทำการยกรถจักรยานยนต์ไปก็ได้ เนื่องจากเจ้าของรถได้ทำการล็อครถไว้อย่างดีแล้ว ซึ่งจะต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่โดยรอบเพื่อหาข้อมูลหลักฐานเพื่อจะติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป