พิธีปิดทองสรีระสังขาร เปลี่ยนจีวร หลวงพ่อทอง วัดไร่กล้วย ร่างไม่เน่าเปื่อย |
|
นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานพิธีทำบุญครบรอบมรณกาล ปีที่7 หลวงปู่ทอง (ปัญญาทีโป) 101 ปี ปิดทองสรีระสังขาร เปลี่ยนจีวร ‘หลวงพ่อทอง’ วัดไร่กล้วย ร่างไม่เน่าเปื่อย
เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 21 สิงหาคม 2565 ที่วัดรังษีสุทธาวาส (วัดไร่กล้วย) ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พระครูมธุรสธรรมภาณ เจ้าอาวาสวัด รังษีสุทธาวาส (วัดไร่กล้วย) พร้อมคณะศิษย์ยานุศิษย์พระครูสุทธิคุณรังษี (หลวงพ่อทอง ปญฺญาทีโป) ที่ชาวบ้านไร่กล้วยหรือคนทั่วไปนิยมเรียกท่านว่า ” หลวงพ่อทอง ” อดีตเจ้าอาวาสวัดรังษีสุทธาวาส (วัดไร่กล้วย) จัดงานวันมรณภาพครบ 7 ปี พร้อมทั้งนำร่างของท่านออกจากโรงแก้วมาปิดทองทั้งองค์เปลี่ยนจีวร โดยมี ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือฉวีวรรณ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายขวัญเลิศ พานิชมาท เขตเลือกตั้งที่ 5 (อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี)นายเอกสิทธิ์ อ่ำฉอ้อน สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เขต1 อำเภอศรีราชา นายไพบูลย์ เสริมศาสต์ นายกสมาคมสื่อมวลชนศรีราชา ศิษย์ยานุศิษย์จำนวนมาก เข้าร่วมปิดทองสรีระของหลวงพ่อทองในครั้งนี้ หลังจากนั้นได้นำสรีระสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยหลวงพ่อทองที่นำมาปิดทองในครั้งนี้บรรจุในโลงไม้สัก ตั้งให้ประชาชนและลูกศิษย์ลูกหาที่เคารพนับถือได้กราบไหว้บูชา ขอพรกัน โดยตั้งไว้ที่ศาลาตั้งสรีระสังขาร ของหลวงปู่ทอง โดยหลวงพ่อทองนั้นได้มรณภาพมาแล้ว 7 ปี แต่สังขารไม่เน่าเปื่อย ทางญาติโยมได้นำร่างของท่านออกมาจากโลงแก้ว มาทำความสะอาดและเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนและลูกศิษย์ลูกหากราบมนัสการปิดทองสรีระสังขารของหลวงพ่อทอง เปลี่ยนจีวร อังสะ สบง ให้ใหม่ก่อนนำเข้าบรรจุโลงแก้วไม้สัก ซึ่งประชาชนทั่วไปที่สนใจสามารถไปกราบนมัสการขอพรสรีระสังขาร “หลวงปู่ทอง”ได้ที่วัดรังษีสุทธาวาส (วัดไร่กล้วย) ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้ทุกวัน สำหรับพระครูสุทธิคุณรังษี “หลวงปู่ทอง ปญญาทีโป” เกิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2465 ปีจอ บิดาชื่อ นายสี ก้านบัว มารดาชื่อ นางไผ่ ก้านบัว ท่านเป็นชาวอำเภอพนัสนิคม ต.หนองปรือ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 7 คน หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 4 ในช่วงชีวิตที่ท่านครองเพศฆราวาสนั้นได้ช่วยบิดา-มารดาประกอบสัมมาอาชีวะตามประสาสุจริตชนทั่วไป จากนั้นจึงได้เข้าสมัครรับราชการทหารเป็นเวลากว่า 2 ปี ภายหลังที่ท่านใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสมาอย่างโชกโชนแล้ว หลวงปู่ท่านจึงคิดจะบวชเพื่อแสวงหาสัจธรรมและตอนแทนพระคุณบุพการี ท่านจึงตัดสินใจเข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2489 ณ พัธสีมา วัดเนินสังข์สกฤษฏาราม ตำบลวัดหลวง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ พระครูเจียม วัดหลวงพรหมาวาส พระกรรมวาจาจารย์ คือพระมหาเที่ยง วัดกลางทุมมาวาส พระอนุสาวนาจารย์ คือพระอธิการเอียง วัดไร่หลักทอง ได้รับฉายาว่า “ปัญญาทีโป” แปลว่า ผู้มีปัญญาดุจแสงสว่างแห่งดวงประทีป จารุ สุขศรี อ.ศรีราชา 088-9499879 |